สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุน ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ครั้งที่ 1 ต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
วันนี้ (11 พ.ค. 65) เวลา 17.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุน “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” ครั้งที่ 1 โดยมี ศ. นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี ม.มหิดล ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุน ฯ ศ. นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย รองคณบดี คนที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รศ. นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการฯ เฝ้า ฯ รับเสด็จ
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังโถงอาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 1 ประทับพระราชอาสน์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา กราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” และกราบบังคมทูลเบิกผู้ทำคุณประโยชน์และผู้มีอุปการคุณเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานของที่ระลึก (46 ราย) และกราบบังคมทูลเชิญทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุน ฯ พร้อมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน” ตามลำดับ
จากนั้นเสด็จ ฯ เข้าห้องประชุมราชปนัดดาสิรินธร เสด็จ ฯ ขึ้นบนเวที ประทับพระราชอาสน์ ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุน “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” ครั้งที่ 1 และทอดพระเนตรวีดิทัศน์เกี่ยวกับศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ โดยมีประธานคณะกรรมการชุดต่าง ๆ กราบบังคมทูลรายงานการดำเนินงานตามระเบียบวาระ ประกอบด้วย ความคืบหน้าการจัดสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ การดำเนินงานการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ การดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และการจัดกิจกรรมระดมทุนเชิญชวนบริจาคจนเสร็จสิ้น แล้วเสด็จ ฯ ออกจากห้องประชุมราชปนัดดาสิรินธร
โอกาสนี้ ทรงพระกรุณาวาดภาพฝีพระหัตถ์ พระราชทานแก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อนำไปจัดกิจกรรมและจัดทำของที่ระลึกให้ประชาชนได้ร่วมบริจาค หรือนำไปมอบเป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ เพื่อสมทบทุนก่อสร้างอาคารและการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน” อาทิ ยุทธศาสตร์การดูแลผู้สูงอายุ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ ฯ พระราชทานให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์, ศิริราช สถาบันการแพทย์ของแผ่นดิน เพื่อประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ ประกอบด้วย รพ.ศิริราช รพ.ศิรราช ปิยมหาราชการุณย์ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก และศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ, ความพร้อมของศิริราช เพื่อการชี้นำสังคมผู้สูงอายุ เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบัน มีอาจารย์แพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุมากที่สุด และผลิตผลงานวิจัยด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย, ผลกระทบเมื่อไทยเป็นสังคมสูงวัย, ไทยติดอันดับ 3 ใน 10 ประเทศในเอเชียที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พ.ศ. 2563 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่มีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากกว่าประชากรเด็ก และอีก 20 ปี ข้างหน้า (พ.ศ. 2593) ประชากรไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% และไฮไลท์ภาพประทับใจจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อผู้สูงวัย สายใยแห่งครอบครัวไทย
ต่อจากนั้นเสด็จ ฯ ไปยังบริเวณฉายพระฉายาลักษณ์ ฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะกรรมการ ฯ เสร็จแล้วทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก ได้เวลาอันสมควรจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
สำหรับ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ”คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้ดำเนินการก่อสร้าง ณ ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเพื่อให้คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลมีศูนย์กลางการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ และส่งเสริมให้บุคลากรทั่วไปมีความรู้และทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ เป็นศูนย์ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยสูงอายุตามหลักการทางเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ รวมทั้งเป็นศูนย์ศึกษาและผลิตงานวิจัยเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในผู้สูงอายุ และเป็นต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุเพื่อนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับสถานบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ
ภายในประกอบด้วย 12 กลุ่มอาคาร แบ่งเป็น กลุ่มอาคารให้บริการ จำนวน 6 อาคาร ได้แก่ 1) อาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม 2) อาคารผู้ป่วยนอก 3) อาคารผู้ป่วยใน 1 4) อาคารผู้ป่วยใน 2 5) อาคารฟื้นฟูและบำบัด 6) อาคารหอพักบุคลากรและศูนย์สูงวัยสุขภาพดี และกลุ่มอาคารสนับสนุนจำนวนอีก 6 อาคาร อาทิ อาคารสถานีไฟฟ้าย่อย อาคารสนับสนุนครัวและผ้า ผ้าและโภชนาการ โดยแต่ละอาคารจะมีทางเชื่อมระหว่างกันหรือ skywalk เพื่อการสัญจรที่ปลอดภัย
ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้าง ระยะที่ 1 สำเร็จแล้วร้อยละ 71.79 โดยจะเปิดให้บริการในเดือนมกราคม 2566 ประกอบด้วย อาคารผู้ป่วยนอก อาคารผู้ป่วยใน 1 อาคารศูนย์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ อาคารหอพักบุคลากรและศูนย์สูงวัยสุขภาพดี อาคารสนับสนุนครัวและผ้า อาคารพักร่าง อาคารบำบัดน้ำเสีย อาคารพักขยะ อาคารห้องเครื่องงานระบบวิศวกรรมและซ่อมบำรุง และทางเชื่อมอาคาร รวมถึงพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก
“ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” ใช้งบประมาณก่อสร้างเป็นเงินทั้งสิ้น 3,200 ล้านบาท โดยได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน จำนวน 889,900,000 บาท นอกเหนือจากนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจะต้องหาเพิ่มเติมในการดำเนินการก่อสร้างและจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมทั้งสิ้นเป็นเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท
“ศิริราช” ขาดงบสร้างอาคารเฟส 2 และเครื่องมือแพทย์ พร้อมรับบริจาค เพื่อการดูแลผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน
สำหรับระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2566 – 2568 ประกอบด้วย อาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม อาคาร ผูปวยใน 2 อาคารสถานีไฟฟ้าย่อย และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งจะติดตั้ง ณ อาคารผู้ป่วยนอก อาคารผู้ป่วยใน อาคารฟื้นฟูและบำบัด อาทิ เครื่อง MRI เพื่อตรวจวินิจฉัยสมองและระบบประสาท (ราคาประมาณ 100 ล้านบาท) ระบบสระน้ำธาราบำบัดพร้อมเครื่องพยุงตัวแบบมีรางเลื่อน เพื่อการรักษาและฟื้นฟูด้วยการออกกำลังกายได้สะดวกและปลอดภัย (Hydrotherapy) (ราคาประมาณ 22.6 ล้านบาท) เครื่องเอกซเรย์ทั่วไประบบดิจิทัล พร้อมระบบจัดเก็บ และรับ - ส่งภาพ (Digital X-Ray) (ราคาประมาณ 22 ล้านบาท) เครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัล (Mammogram) (ราคาประมาณ 18 ล้านบาท) เครื่องตรวจวิเคราะห์ระบบการขับถ่ายปัสสาวะ พร้อมเตียงตรวจ (Urodynamic) (ราคาประมาณ 6.2 ล้านบาท) เครื่องตรวจวัดความหนาแน่นกระดูก (Bone Density) (ราคาประมาณ 6 ล้านบาท) เครื่องอุปกรณ์ฝึกเดินโดยรีโมทควบคุม พร้อมระบบควบคุมการล้ม (Andago) เป็นเครื่องรักษาและฟื้นฟู (ราคาประมาณ 5 ล้านบาท) และเครื่องรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดกำลังสูง (High Power Laser) รักษาอาการปวดของข้อและเอ็น (ราคาประมาณ 1.6 ล้านบาท) เป็นต้น
โดยอาคารผู้ป่วยใน 2 จะเน้นการออกแบบเพื่อดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม (dementia) ภาวะซึมสับสนเฉียบพลัน (delirium) ซึ่งเป็นการรับผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (dementia ward) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย รวมถึงศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (Advanced Imaging Center) จึงเป็นอาคารที่พร้อมให้การดูแลรักษาและสร้างวิทยาการด้านสมองและระบบประสาทสำหรับผู้สูงอายุแบบองค์รวมและครบวงจรให้ทัดเทียมกับระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ยังมีอาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม อันจะนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้และการถ่ายทอดวิทยาการแก่บุคลากรทางสุขภาพทุกระดับ รวมถึงกลุ่มดูแลผู้ป่วยสูงอายุสมองเสื่อม เช่น ญาติหรือผู้ดูแลในสถานบริบาลต่าง ๆ ซึ่งเป็นกำลังหลักสำคัญในการร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนัก เป็นพลังขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมให้สังคมไทยสูงวัยแบบสมบูรณ์ต่อไป
ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า “การก่อสร้างระยะที่ 2 นี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ เป็นมือที่พร้อมให้การรักษาดูแลผู้ป่วย พร้อมกับการสร้างบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย ผู้ดูแลอย่างครบวงจร ซึ่งการก่อสร้างระยะที่ 2 ศิริราชยังขาดแคลนงบประมาณอีก 2,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารวิจัยและฝึกอบรม อาคารผู้ป่วยใน 2 และการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ อย่างไรก็ดี เรายังคงเดินหน้าต่อไป ซึ่งหากแล้วเสร็จจะเป็นสถาบันที่เอื้อต้อการพัฒนาต่อยอดในด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุที่นําไปสู่การเป็นองค์กรต้นแบบของประเทศและภูมิภาคอาเซียน ในการดูแลผู้สูงอายุของไทยให้สมบูรณ์”
ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า “ในวันนี้ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบ ศิริราชเชื่อว่าความรัก ความห่วงใย และความเข้าใจจากคนในครอบครัวแบบไทย ๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความสุขให้คนทุกวัย หันมาใส่ใจ ดูแลกัน เพื่อเติมความสุขทางกายและทางใจนำไปสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับสังคมไทย”
“ให้ เท่ากับ รักษา” เท่ากับท่านได้มีส่วนช่วยจรรโลงสังคมแห่งการเอื้อเฟื้อไม่ทอดทิ้งกันของคนไทย ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างต้นแบบ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” บริจาคเข้ากองทุน “ศิริราชเพื่อผู้สูงวัย” ได้ที่
• ศิริราชมูลนิธิ 3 สาขา ได้แก่ 1. ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 รพ.ศิริราช ทุกวัน 2. รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ชั้น 2 โซน B ทุกวัน และ 3. ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ชั้น G (วันจันทร์ – ศุกร์)
• บริจาคผ่านธนาคารกรุงเทพ 901-7-06044-4 ธนาคารไทยพาณิชย์ 016-4-57906-4 ธนาคารกสิกรไทย 063-3-16546-7 ชื่อบัญชี ศิริราชมูลนิธิ (ศิริราชเพื่อผู้สูงวัย)
• บริจาคผ่าน Application ธนาคารที่ท่านมีบัญชีเงินฝาก โดยสแกนผ่าน QR CODE
• บริจาคผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS DTAC และ True โดยกด *984*100# โทรออก ร่วมบริจาคครั้งละ 100 บาท
• บริจาคออนไลน์ ผ่าน https://si-eservice.mahidol.ac.th/donation
หรือสอบถาม โทร. 0 2419 7646-8 (ในวันเวลาราชการ)