หลายท่านที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้าไม่สดใส ลองมาทำความเข้าใจเรื่องการล้างหน้าให้ถูกวิธี ว่าจะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวหน้าของคนเราได้อย่างไร ทำให้หน้าสวยใสไร้สิวได้หรือไม่ ผศ.พญ.สุเพ็ญญา วโรทัย ภาควิชา ตจวิทยา จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

        การล้างหน้าให้ถูกวิธี  ขั้นแรกก่อนล้างหน้าควรล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะล้างหน้าและเริ่มล้างหน้าโดยใช้น้ำธรมดาหรือน้ำอุ่นนิด ๆ ล้างไปพร้อมกับใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใบหน้าโดยเฉพาะ และนวดไปบนใบหน้าตามแนวรูขุมขน ประมาณ 15 – 20 วินาที แล้วใช้น้ำเปล่าล้างออกอีกครั้งหนึ่ง

        ช่วงหลังล้างหน้า ใช้ผ้านุ่ม ๆ ซับหมาด ๆ และทาครีมที่ให้ความชุ่มชื้นเพราะเป็นช่วงที่ผิวดูดซึมครีมได้ดีที่สุด 

        สำหรับน้ำเปล่าอาจจะใช้ได้ในผิวที่เป็นผิวของเด็กก่อนเข้าสู่วัยรุ่น เนื่องจากผิวของเด็กยังไม่มีการผลิตน้ำมันออกมา แต่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแล้วต่อมไขมันจะเริ่มทำงานมากขึ้น ซึ่งไขมันเหล่านี้ไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวได้ จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารชะล้างช่วยเอาไขมันออกไป

        แต่อย่างไรก็ตาม มีการล้างหน้าหลายแบบด้วยกันที่ทำร้ายผิวหน้าโดยไม่รู้ตัวและคนส่วนใหญ่มักมอง ข้าม อาทิ แบบที่หนึ่ง คือ การล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เนื่องจากจะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นออกจากผิวหลังล้างหน้าได้ แบบที่สอง คือ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิวหน้า เช่น นำสบู่ก้อนที่ใช้ล้างมือหรืออาบน้ำมาล้างหน้า ซึ่งจะมีการชะล้างเอาไขมันธรรมชาติที่ปกป้องผิวออกมามากเกินไปทำให้เกิดผิวแห้งและเกิดอาการระ คายเคืองได้เช่นกัน แบบที่สาม คือ การล้างหน้าบ่อยเกินไป โดยปกติแนะนำให้ล้างหน้าตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าด้วย และสุดท้าย ในบางรายชอบใช้ผลิตภัณฑ์พวกสครับ เม็ดบีทช่วยขัดผิวหน้าเพื่อผลัดเชลล์ผิวส่งผลให้หน้ากระจ่างใส ซึ่งแนะนำว่าควรใช้สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เพราะอาจมีการระคายเคืองกับผิวได้

        การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้เหมาะสมกับผิวหน้ามีส่วนสำคัญมาก คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาใช้กับผิวหน้าโดยเฉพาะ โดยควรที่จะเลือกตามสภาพผิว ว่าเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม และควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัทที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ อย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ สุดท้ายที่อยากเน้น คือ ต้องดูแลสุขภาพผิวจากภายใน โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว