หลายคนมักสงสัยว่าคนที่เป็นโรคลมชัก เกิดจากอะไร เป็นโรคนี้จะหายหรือไม่ เมื่อพบเห็นจะช่วย เหลือได้อย่างไร อ.นพ.ศรัทธาวุธ วงษ์เวียงจันทร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ จะมาให้รายละเอียดแก่เราครับ
โรคลมชักเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของร่างกาย เมื่อเกิดการผิดปกติจึงทำให้เกิดอาการชักขึ้นมาได้ โรคลมชักสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคลมชักเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม ความพิการแต่กำเนิด หรืออะไรก็ตามที่มีความผิดปกติต่อเนื้อสมอง เช่น เนื้องอกสมอง หลอดเลือดสมอง รวมถึงผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุกระทบกระเทือนต่อเนื้อสมองครับ
อาการของคนที่เป็นโรคลมชักมักมีอาการแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเนื้อสมองบริเวณไหนที่มีความผิดปกติ อาการชักที่เราเจอกันบ่อย ๆ เช่น มีอาการเกร็งหรือมีอาการกระตุกสามารถเกิดในบางส่วนของร่างกายก่อน เช่น หน้า แขน มือ แล้วลุกลามไปเกร็งกระตุกทั้งตัว หรือในบางรายอาจมีการเกร็งกระตุกทั้งตัวตั้งแต่แรกได้เลยครับ ส่วนอาการชักอื่น ๆ ที่เจอบ่อยแต่คนไข้อาจไม่สึกว่าคือการชัก นั่นคือ การชักมือ อาการชักมือ คนไข้จะมีอาการเหม่อลอยรวมกับมีการเคลื่อนไหวผิดปกติของร่างกายบางส่วน เช่น เคี้ยวปาก เอามือจับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จับเสื้อผ้า จับสิ่งของ หรือจับคนรอบข้าง ซึ่งระหว่างที่มีอาการผู้ป่วยจะไม่รู้สึกตัวครับ อาการชักจะมีอยู่ประมาณ 2 - 3 นาทีแล้วจะหยุดเอง คนไข้บางรายจะมีอาการเตือนก่อนอาการชัก อย่างเช่นที่เราเจอบ่อย ๆ จะรู้สึกใจสั่นแน่นลิ้นปี่ หรือได้ยินเสียงผิดปกติครับ อาการนำจะอยู่ในระยะสั้น ๆ ก่อนมีอาการชักประมาณ 5 - 10 วินาทีแล้วจะลุกลามต่อไปขั้นชักโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวครับ
เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการชัก แพทย์จำเป็นต้องซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงการส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง การตรวจสแกนสมอง เมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชักแล้ว การรักษาหลัก คือ การรับประทานยากันชักครับ ยากันชักมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดในท้องตลาด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรักษาด้วยยากันชักครับ สิ่งที่สำคัญคู่กับการทานยากันชัก คือ การป้องกันปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการชักครับ อย่างเช่น การอดหลับอดนอน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากการทานยากันชักและควบคุมปัจจัยกระตุ้นการชักแล้ว แพทย์จำเป็นต้องแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดอันตราย เช่น การไปว่ายน้ำคนเดียว การขับรถ หรือการทำกิจกรรมในที่สูง เมื่อเกิดอาการชักขึ้นมาจะเกิดอันตรายได้ ผู้ป่วยบางรายที่ไม่ตอบสนองต่อยากันชักจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อควบคุมโรคหรือรักษาให้หายขาดครับ
ที่สำคัญ เมื่อพบผู้ป่วยที่มีอาการชักเกร็งกระตุก อย่างแรกต้องตั้งสติครับ อย่าตกใจ ประคองผู้ป่วยลงท่านั่งหรือนอนลงในท่าตะแคง เพื่อป้องกันการสำลักและให้การหายใจเกิดขึ้นได้สะดวกครับ
จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบอกว่า ห้ามเอาช้อนหรือของแข็งเข้าไปในปากเพื่องัดปากครับ เพราะจะทำให้ผู้ป่วยฟัน หลุดและเข้าไปอุดหลอดลมจนหยุดการหายใจได้ครับ ในขณะเดียวกันผู้ป่วยโดยทั่วไปจะชักอยู่ประมาณ 2 – 3 นาที ถ้าผู้ป่วยชักเกร็งกระตุกต่อเนื่องเกิน 5 นาทีมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียกรถพยาบาลไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดครับ
|