ออกอากาศ : วันที่ 8 เมษายน 2561  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ป้องกันได้
บทคัดย่อ:
        มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นภัยเงียบ เนื่องจากเป็นมะเร็งที่พบบ่อย และระยะแรกไม่มีอาการ กว่าจะรู้ตัวเมื่อเกิดอาการชัดเจน โรคก็อาจลุกลามไปแล้ว การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ หรือระยะก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งย่อมรักษาได้ ผศ.นพ.จุลจักร ลิ่มศรีวิไล ภาควิชาอายุรศาสตร์ จะมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ 
 
 
 
      ปัจจุบันสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ แต่เราพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่จะส่งเสริมให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยปัจจัยเสี่ยงอาจเป็นปัจจัยที่เกิดจากภายในที่ควบคุมไม่ได้และปัจจัยภายนอกที่ควบคุมได้ 
        ปัจจัยภายใน ได้แก่ อายุที่มากขึ้น หรือการที่มีประวัติของคนในครอบครัวหลาย ๆ คนมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนปัจจัยภายนอก ได้แก่ ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน โรคเบาหวาน การกินอาหารบางชนิด เช่น เนื้อแดง คือ เนื้อวัวหรือเนื้อหมู เนื้อแปรรูปต่าง ๆ เช่น ไส้กรอกหรือแฮม การดื่มสุรา และการสูบบุหรี่ครับ  
อาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่ อาการที่เกิดจากก้อนนั้นมีเลือดออก ถ่ายเป็นเลือด ซีด โลหิตจาง ถ้าก้อนนั้นโตขึ้นจนกดเบียดลำไส้ใหญ่ ก็จะทำให้ลำไส้ใหญ่มีขนาดเล็กลง จึงมีอาการปวดท้อง ท้องผูก ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือท้องโตขึ้นเนื่องจากมีอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้ครับ 
        อย่างไรก็ตาม อาการต่าง ๆ เหล่านี้ มักจะเกิดขึ้นเมื่อมะเร็งลุกลามไปแล้วเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่แนะนำให้มีอาการเหล่านี้แล้วค่อยมาตรวจเนื่องจากเป็นมะเร็งที่พบบ่อย เราจึงแนะนำให้มาตรวจคัดกรองตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีอาการ เพื่อจะทำให้เราเจอโรคในระยะต้นหรือเจอตอนที่ยังไม่กลายเป็นมะเร็ง ลักษณะนี้จะเหมือนกับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่เรามักไปตรวจคัดกรองตอนที่เรายังไม่มีอาการครับ
        ปัจจุบันมีวิธีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่หลัก ๆ 2 วิธี ซึ่ง 2 วิธีนี้แต่ละวิธีจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน คือ 
        1. การตรวจอุจจาระ เป็นการตรวจหาเลือดออกแฝง มีข้อดีคือสะดวก แต่ความแม่นยำในการตรวจหารอยโรคน้อย ถึงแม้ผลจะตรวจเป็นปกติแต่ต้องมาตรวจซ้ำทุกปี แต่ถ้าผิดปกติก็ต้องตรวจต่อด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ 
        2. การตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เป็นการตรวจดูว่าในลำไส้มีก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อหรือเปล่า การตรวจวิธีนี้มีความแม่นยำในการตรวจหารอยโรคสูงมาก แต่ต้องใช้เวลาเตรียมตัว ถ้าตรวจแล้วผลเป็นปกติก็สามารถสบายใจและอีก 5 - 10 ปีข้างหน้าค่อยมาตรวจซ้ำ 
        การวินิจฉัยจะใช้การตรวจส่องกล้องเป็นหลัก ถ้าส่องกล้องไปแล้วเจอรอยโรคที่ผิดปกติ คุณหมอจะทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจและทำการวินิจฉัยเพื่อรักษาต่อไปครับ
        การรักษา ส่วนใหญ่แล้วจะใช้การผ่าตัดครับ เพื่อตัดก้อนเนื้อนั้นออก ส่วนการให้ยาเคมีบำบัดหรือการฉายแสงจะขึ้นอยู่กับระยะและตำแหน่งของโรคครับ
        การปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มีดังนี้ การออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิน รับประทานอาหารคลีน อาหารไฟเบอร์ เนื้อสัตว์ควรเป็นเนื้อปลา แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ทั้งหมดนะครับ อย่างไรก็ตาม การตรวจคัดกรองยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ผมแนะนำให้ทุกท่านที่อายุ 50 ปีขึ้นไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ครับ

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช