ออกอากาศ : วันที่ 2 กรกฎาคม 2549 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
อย่างไรถึงเรียกว่าไขมันพอกตับ |
บทคัดย่อ:
|
เมื่อการทำงานของตับผิดปกติและแพทย์วินิจฉัยว่า ท่านมีภาวะไขมันพอกตับ หลายท่านอาจตกใจและไม่เข้าใจว่าไขมันพอกตับคืออะไร อ.พญ. ศิวะพร ไชยนุวัติ ภาควิชาอายุรศาสตร์ อธิบายว่า ไขมันพอกตับ คือ ภาวะที่มีไขมันโดยเฉพาะไตรกรีเซอไรด์อยู่ในเซลล์ตับภาวะดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ทั้งกับคนที่ดื่มและไม่ดื่มสุรา ทั้งนี้ เซลล์ไขมันที่เกิดขึ้นจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือทำให้ตับอักเสบในระยะแรก แต่พบได้ว่าในคนไข้บางส่วนที่ไขมันทำให้เกิดการอักเสบของตับ และในระยะยาวผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับ และมีการอักเสบของตับเรื้อรัง ก็มีโอกาสเกิดภาวะตับแข็งได้อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจอธิบายได้ว่า ไขมันพอกตับเป็นสาเหตุการอักเสบของตับได้อย่างไร โดยพบว่าเพียงร้อยละ5-8 ของผู้ป่วยไขมันพอกตับ จะกลายเป็นตับอักเสบและเกิดภาวะตับแข็งไขมันพอกตับ เป็นภาวะที่เกิดขึ้น ทั้งที่หาสาเหตุได้และหาสาเหตุไม่ได้ ภาวะที่มีไขมันสะสมอยู่ในตับ พบได้ในบุคคลที่ดื่มสุรา บุคคลที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี แต่ภาวะไขมันพอกตับหรือที่เรียกว่า fatty liver จะเป็นลักษณะจำเพาะพบในคนไข้ที่ไม่ได้ดื่มสุรา และพบว่ามีไขมันสะสมอยู่ในตับ โดยผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะไขมันพอกตับมักจะเป็นผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเลือดสูง รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน สำหรับอาการส่วนใหญ่ผู้ป่วยไขมันพอกตับจะไม่มีอาการใด ๆ แสดงออกแต่บางรายอาจปวดแน่นชายโครงข้างขวาซึ่งพบไม่มากนัก การวินิจฉัยทำได้โดยตรวจเอนไซม์การทำงานของตับและอัลตราซาวนด์ การวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจเอนไซม์การทำงานของตับและอัลตราซาวนด์ ส่วนการรักษาภาวะไขมันพอกตับนั้น ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะ การรักษาที่ได้ผลดีที่สุดคือ การออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก และควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ยาที่ใช้อยู่ในขณะนี้คือ ยารักษาเบาหวานที่เป็นยาจำพวกที่เพิ่มความไวต่ออินซูลิน และยาต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น อย่างไรก็ตามภาวะไขมันพอกตับ สามารถป้องกันได้ด้วยตัวของท่านเอง โดยการออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|