ออกอากาศ : วันที่ 21 พฤษภาคม 2549 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
ข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง |
บทคัดย่อ:
|
โรคข้อสันหลังอักเสบเรื้อรังหากไม่รีบทำการรักษา อาจทำให้พิการถาวรได้ และจะมีวิธีการรักษาอย่างไร รศ.นพ.สุรินทร์ ธนพิพัฒนศิริ ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด อธิบายว่า ข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง เป็นการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลังแบบเรื้อรัง และค่อย ๆ รุนแรงขึ้นจนมีการเชื่อมต่อกันของข้อต่อกระดูกสันหลัง ซึ่งมักพบอาการป่วยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยผู้ป่วยระยะเริ่มแรก จะมีอาการปวดข้อโดยเฉพาะอาการปวดหลังหรือบั้นเอวเมื่ออายุประมาณ 20 ปี และเริ่มปวดมากขึ้นเมื่ออายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป โดยบริเวณที่พบอาการปวดมากที่สุด ได้แก่ บริเวณบั้นเอว แก้มก้น ทรวงอก หัวเข่า ส้นเท้า หัวไหล่และข้อมือ ในระยะแรกจะมีอาการปวดเป็นครั้งคราว แต่อาการเด่นชัดที่สุด คือ อาการปวดหลังเวลานอน โดยเฉพาะในช่วงเช้า อาจมีอาการหลังแข็งและดีขึ้นหลังได้เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย หากอาการรุนแรงขึ้นผู้ป่วยอาจมีอาการไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไปพบแพทย์หลังมีอาการปวดไปแล้วประมาณ 6 เดือน ถึง 3 ปี ทั้งนี้
ในทางการแพทย์ได้ตรวจพบว่าผู้ป่วยก้มงอบั้นเอวลงด้านหน้าได้น้อยกว่าปกติ หรือใช้วิธีวัดรอบทรวงอกเพื่อดูการขยายตัวเมื่อหายใจเข้าเต็มที่ ในรายที่มีอาการรุนแรงและละเลยการรักษามานานหลายปี จะมีลักษณะหลังแข็งทั้งท่อนและโก่ง ตาไม่สามารถมองตรงไปข้างหน้า บางรายสะโพกแข็งแบบอยู่ในท่านั่ง ทำให้ยืนและเดินไม่ได้
ในส่วนของการรักษา แพทย์จะช่วยบรรเทาอาการปวดอักเสบ และป้องกันความพิการได้หลายทาง เช่น การให้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ การใช้วิธีกายภาพบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถยืนและนั่งตรงได้ และวิธีสุดท้ายคือการใช้การผ่าตัดสำหรับระยะสุดท้ายของโรคที่มีการติดแข็งของข้อ เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก หรือการดัดกระดูกเอวที่โก่ง โค้งให้ตรง เป็นต้น |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|