หมอกควันในภาคเหนือ เป็นปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นและหมอกควันจากไฟป่าซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ อ.นพ.อดิศักดิ์ เกษมอัศวชานนท์ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ มีคำแนะนำให้เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าที่ดอยตุงมาฝากให้รู้ถึงวิธีป้องกัน
ปัญหาหมอกควันมักเกิดในช่วงฤดูหนาว สาเหตุเกิดจากความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ ทำให้ไออากาศร้อนไม่สามารถลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศระดับสูงได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันกระจายตัวอยู่ในระดับพื้นดิน จนเกิดปัญหามลพิษที่สำคัญมีผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตและสุขภาพ
การป้องกันตนเอง คือ
1. หลีกเลี่ยงการสูดฝุ่นละอองของควันไฟโดยใช้หน้ากากอนามัย หรือผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากปิดจมูก และสวมแว่นตาทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
2. หลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังกายและทำงานหนัก ที่ต้องออกแรงมากนอกบ้าน เพราะจะทำให้มีโอกาสสูดควันได้มากขึ้น
3. ปิดประตูหน้าต่างด้านที่รับลม ซึ่งพัดหมอกควันเข้าภายในบ้าน และเปิดประตูหน้าต่างด้านตรงข้ามกับทิศทางลม เพื่อลดหมอกควันและฝุ่นละอองที่เข้ามา และถ้าเป็นไปได้อาจมีภาชนะบรรจุน้ำไว้ที่หน้าต่างที่เปิด ซึ่งจะช่วยลดหมอกควันที่เข้ามาได้ดียิ่งขึ้น
4. ควรดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ งดการรองน้ำฝนไว้ใช้ดื่มกินชั่วคราว หากจำเป็นให้รองน้ำฝนหลังจากฝนตกไปแล้ว 1 ชั่วโมง เพราะฝุ่นควันที่มีจะลดลง เนื่องจากถูกชะล้างไปกับฝนในช่วงแรก และควรใช้น้ำสะอาดกลั้วคอแล้วบ้วนทิ้งวันละ 3 -4 ครั้ง ห้ามกลืน
5. ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด โรคหัวใจ โรคปอด รวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน และควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก แสบตา น้ำตาไหล ตาแดง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์
|