สัปดาห์นี้เรายังอยู่กับลมหนาวบนดอยตุง ช่วงนี้นอกจากผู้สูงอายุที่เราต้องใส่ใจสุขภาพของท่านแล้ว เด็กๆ ก็เช่นกัน โดยเฉพาะเด็กที่ต้องเผชิญกับความหนาวเย็นของอากาศบนพื้นที่สูงเช่นดอยตุง อ.พญ.รมิดา อมรสิทธิวัฒน์ ภาควิชาชีวเคมี มีคำแนะนำค่ะ
อากาศที่เย็นและแห้งในช่วงหน้าหนาว จะทำให้เชื้อโรคหลายชนิดแพร่กระจายได้ดี ลูกน้อยจึงมีโอกาสป่วยได้ง่าย วิธีป้องกันคือ
1.ต้องทำร่างกายลูกให้อบอุ่นเสมอ เวลานอนจึงควรห่มผ้าห่มเพื่อป้องกันอากาศหนาวเย็น คุณพ่อคุณแม่ ควรเลือกผ้าที่หนานุ่ม แต่ไม่หนักจนเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกอึดอัดไม่สบายตัวได้ และควรเลือกชนิดที่ถอดซักได้ ซึ่งถ้า เนื้อผ้าด้านนอกทำจากผ้าฝ้าย ด้านในเป็นใยสังเคราะห์ จะช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย
นอกจากนี้ ควรสวมเสื้อผ้าหนาๆ จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้ลูกน้อยได้ หากอากาศหนาวมากๆ ก็ควรเตรียมหมวกไหมพรม ถุงมือ ถุงเท้าที่เป็นแบบผ้ายืดที่อ่อนนุ่ม ไม่รัดแน่นเกินไป
2. อาบน้ำวันละครั้งก็พอ ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสำหรับเด็ก โดยถูเบาๆ ซึ่งน้ำที่อาบ ต้องไม่เย็นจนเกินไป เพราะการควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายของลูกยังทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนผู้ใหญ่ หากถูกน้ำเย็นเข้าก็อาจไม่สบายได้ น้ำร้อนเกินไปก็ไม่ดี เพราะจะทำให้ผิวลูกแห้งตึงและคันได้ หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวให้ลูกทันที ซึ่งควรเลือกชนิดที่ไม่ข้นหรือเหนียวจนเกินไป โดยบีบใส่มือแล้วลูบให้เนื้อครีมกระจายทั่วแขน ขา และลำตัวของลูก เป็นการเคลือบผิวและปิดรูขุมขน จะช่วยให้ผิวลูกมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา
3. กินอาหารที่มีประโยชน์ การใส่ใจเรื่องโภชนาการของลูก ก็เป็นส่วนสำคัญในการลดโอกาสเจ็บป่วย และยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์ให้ลูกด้วย
4. หมั่นให้ลูกจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ เพราะร่างกายต้องการความอบอุ่น ซึ่งนอกจากน้ำจะช่วยปรับสมดุลจากอากาศที่หนาวเย็นและแห้งแล้ว ยังช่วยให้ลูกสามารถปรับตัวสู้กับอากาศหนาวได้
5. ไม่ควรพาลูกน้อยออกไปสัมผัสลมหนาวนอกบ้าน เพราะจะทำให้ผิวแห้งยิ่งขึ้น จนเกิดอาการคัน และอาจเกาจนทำให้ผิวอักเสบ ติดเชื้อได้ง่าย โดยที่ยามปกติผิวของทารกก็บอบบางแพ้ง่ายอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับเชื้อโรคต่างๆที่มากับหน่้าหนาวได้ เช่น ไข้หวัด จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศหนาวเย็นมากๆ และคลุกคลีกับผู้ที่ไม่สบายค่ะ
|