สัปดาห์นี้ยังมีเรื่องราวของพบหมอศิริราชสัญจรจากดอยตุงมาให้ชมกัน ในช่วงเดือนธันวาคม หลายพื้นที่อุณหภูมิจะลดลง ทำให้เกิดอาการป่วยไข้ได้ง่าย โดยเฉพาะโรคหวัด จะดูแลสุขภาพกันอย่างไร ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จะมาให้คำแนะนำค่ะ
โรคที่ต้องระวังในช่วงที่อากาศหนาวเย็น มักเกิดจากการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานในช่วงที่อุณหภูมิลดลง อย่าง ไข้หวัด ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งมีหลายสายพันธุ์ เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดแต่ละครั้งมักเกิดจากเชื้อไวรัสเพียงชนิดเดียว และเมื่อหายแล้ว ร่างกายก็จะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อชนิดนั้น และเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดครั้งใหม่ก็มักจะเกิดจากเชื้อไวรัสหวัดชนิดใหม่ หมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ
ไข้หวัดติดต่อกันได้ง่าย ด้วยการไอ จาม หรือสัมผัสน้ำมูก จะมีอาการหลังรับเชื้อไปแล้วประมาณ 1-3 วัน โดยเริ่มมีไข้เป็นพัก ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คัดจมูก มีน้ำมูกไหลใส ๆ ไอแห้ง ๆ หรือมีเสมหะสีขาวเล็กน้อย จาม เจ็บคอเล็กน้อย ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจมีแบคทีเรียที่อยู่ในระบบทางเดินหายใจร่วมกับเชื้อไวรัสหวัด ทำให้เกิดต่อมทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ บางรายเสียงแหบเนื่องจากกล่องเสียงอักเสบ หรือวิงเวียนศีรษะ เนื่องจากอวัยวะควบคุมการทรงตัวที่อยู่ภายในหูเกิดการอักเสบ หรือที่เรียกว่า “หวัดลงหู” ในเด็กเล็กจะมีอาการมากกว่าผู้ใหญ่ อาจทำให้เกิดอาการชักจากไข้ได้
และที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาว คือ โรคไข้หวัดใหญ่ “อินฟลูเอ็นซาไวรัส” Influenza Virus ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลัน มักแพร่ระบาดในช่วงนี้ หากเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้น จะมีอาการรุนแรงและยาวนานกว่าไข้หวัดทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิม ภาวะ แทรกซ้อนรุนแรงที่พบได้ เช่น การเกิดปอดบวม โดยหากแพทย์วินิจฉัยแยกอาการไข้หวัดใหญ่ออกจากไข้หวัดธรรมดาได้ ก็จะช่วยให้ดูแลผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงได้ดีขึ้น วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น โดยเฉพาะเด็กเล็กและคนชรา สำหรับแพทย์และพยาบาลควรฉีดวัคซีนป้องกันทุกปีเช่นกัน เนื่องจากมีโอกาสสัมผัสเชื้อสูง ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการรับเชื้อมาและแพร่กระจายเชื้อให้กับผู้ป่วยที่ดูแลอยู่
โดยสรุป ไข้หวัดทั่วไปจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ แต่ที่มีอาการนานมักเกิดกับผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือทำงานหนัก สำหรับผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิม ดังนั้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอ สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ เพื่อทดแทนน้ำที่เสียไปจากการมีไข้ กินอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย และไม่ควรซื้อยามากินเอง
สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ในอีกไม่กี่วันนี้ ขอให้ทุกท่านดูแลสุขภาพทั้งของตนเองและคนในครอบครัว เพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วยสุขภาพกายและสุขภาพใจที่สมบูรณ์แข็งแรงครับ
|