หลายคนอาจเคยเมารถหรือเมาเรือระหว่างเดินทาง ทำอย่างไรดี
ผศ.พญ.สุวัจนา อธิภาส ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา กล่าวว่า อาการเมารถ เมาเรือ เกิดจากประสาทการทรงตัวของเราทำงานได้ไม่สมดุล ซึ่งความไม่สมดุลนี้อาจเกิดจากการได้รับแรงกระตุ้นที่มากเกินไป เช่น นั่งรถที่เหวี่ยงนานเกินไป หรือนั่งเรือที่โยนไปมาตามลูกคลื่น โคลงไปโคลงมานานเกินไป จนไปกระตุ้นประสาทการทรงตัวของเรา
ถ้าประสาทการทรงตัวของเราไม่มีความไวผิดปกติ ก็อาจไม่รู้สึกอะไร ทว่าผู้นั้นมีประสาทการทรงตัวที่ ไวเป็นพิเศษ พอนั่งรถหรือเรือไปได้สักพัก จะรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
การป้องกัน เริ่มตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง ควรรับประทานอาหารตามปกติ อย่ารีบร้อน รับประทานช้า ๆ และควรเว้นระยะพักสักครึ่งชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เรื่องนี้มีหลายคนเข้าใจผิดว่า ถ้ารับประทานอาหารเข้าไป อาจทำให้อาเจียนกลางทาง ความจริงแล้ว ยิ่งท้องว่างก็จะทำให้เมาเร็วยิ่งขึ้น
ทางด้วยรถ ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเมา ควรมานั่งด้านหน้าแทนด้านหลัง เพื่อให้สายตาเรามองตรงไปข้างหน้า เพราะการที่เราเห็นถนนตรงหน้า เห็นต้นไม้ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว จะทำให้เราเมาช้ากว่านั่งด้านหลังที่เห็นสิ่งต่าง ๆ จากด้านข้างเคลื่อนไหวผ่านหน้าเราไปอย่างเร็ว ๆ ผู้ที่เมาเรือก็เช่นกัน ถ้าคลื่นลมไม่แรง ก็คงไม่เมา แต่ถ้าคลื่นโยนตัวแรงมาก ก็ให้นั่งอยู่กลางลำเรือ ไม่ควรนั่งเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
นอกจากนี้อาจรับประทานยาแก้เมา 1 เม็ด ก่อนออกเดินทางอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาที่ถูกดูดซึมไปควบคุมให้ประสาทการทรงตัวมีความไวน้อย ซึ่งแรงกระตุ้นที่ได้รับก็อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดเสียสมดุลของประสาทการทรงตัว เราก็อาจจะเดินทางหรือเที่ยวให้สนุกได้ดังใจ
สำหรับผู้ที่เคยเวียนศีรษะมาก่อน บ้านหมุน มีประสาทการทรงตัวผิดปกติ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม ถ้าเคยตรวจมาแล้วว่าประสาทการทรงตัวที่อยู่ในหู 2 ข้าง ทำงานไม่สมดุล ขอเตือนว่าว่ายน้ำได้ค่ะ แต่ไม่ใช่ดำน้ำ เพราะเวลาดำน้ำ เราจะเห็นแต่น้ำอยู่รอบ ๆ ตัวเรา ความรู้สึกสัมผัสรอบ ๆ ตัวเราจะไม่มี เพราะน้ำอยู่ล้อมรอบกายเราทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราจึงต้องใช้ประสาทการทรงตัวจริง ๆ ถ้าประสาทการทรงตัวของเราเสื่อม เราจะไม่สามารถรับรู้ทิศทางได้ และอาจจมน้ำได้ เป็นเรื่องที่ควรระวัง |