ออกอากาศ : วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: โรคแห่งความรัก : ฮันนีมูน ซิสไตติส
บทคัดย่อ:

 

            อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์แล้ว เพื่อต้อนรับวันแห่งความรักที่กำลังจะมาถึง เรามีคำแนะนำสำหรับโรคที่เกิดเฉพาะสตรี แต่คุณผู้ชายมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก นั่นคือ “โรคฮันนีมูนซิสไตติส”  จะเป็นอย่างไร  ติดตามรายละเอียดจาก อ.พญ.พัทยา   เฮงรัศมี  ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา  ค่ะ

            โรคฮันนีมูน ซิสไตติส เป็นโรคที่เกิดเฉพาะในเพศหญิง ที่มีการอักเสบบริเวณท่อปัสสาวะ ช่องคลอดหรือ กระเพาะปัสสาวะหลังจากมีเพศสัมพันธ์  โดยเฉพาะในช่วงฮันนีมูนหรือช่วงเวลาแห่งความรัก ที่มีเพศสัมพันธ์หลายๆ ครั้ง  โดยเกิดจากเชื้อโรคบริเวณช่องคลอด ฝีเย็บ และทวารหนักลุกลามไปตามท่อปัสสาวะจนถึงกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการแสบบริเวณปลายท่อปัสสาวะหรือเจ็บบริเวณปากช่องคลอด กรณีที่เชื้อนั้นก่อให้เกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน กลางคืน ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกว่าไม่สุดต้องไปปัสสาวะอีก  แม้ว่าเพิ่งปัสสาวะเสร็จก็ตาม  บางคนอาจจะมีอาการปวด หรือแสบบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยและอาจลุกลามถึงขั้นติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน เช่น กรวยไต ท่อไต ซึ่งมีผลต่อไตในระยะยาว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจเกิดการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้ 

           หากสงสัยว่าตนเองมีอาการดังกล่าว ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย  โดยทั่วไปจะต้องตรวจปัสสาวะ และอาจเพาะเชื้อจากน้ำปัสสาวะ  ซึ่งถ้าพบว่าผิดปกติ  แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ แต่ต้องรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง

           อย่างไรก็ตาม อาการของโรคฮันนีมูนมักจะไม่รุนแรง หากไม่มีการอักเสบและติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าดื่มน้ำมากๆ เพื่อระบายเชื้อโรคบริเวณกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะออกมากับปัสสาวะ รวมถึงพักกิจกรรมทางเพศในระหว่างที่มีอาการ ก็จะหายได้ภายใน  5-7 วัน  เพราะปัจจัยสำคัญของโรคนี้เกี่ยวข้องกับความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ 

           การมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่ควรมีอย่างถูกต้องเหมาะสมและถูกกาลเทศะ เพราะโรคนี้มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก   การป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับคุณผู้หญิงคือ ดื่มน้ำมากๆ ไม่ต่ำกว่า 8 แก้วต่อวัน  หลังจากมีเพศสัมพันธ์   ควรไปปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะรวมถึงอวัยวะเพศและไม่ควรกลั้นปัสสาวะนานๆ ค่ะ

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช