ปัจจุบันผู้ป่วยเบาหวาน มีแนวโน้มถูกตัดขาเพิ่มขึ้น แต่การผ่าตัดรักษา โดยเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้าจะช่วยผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ต้องถูกตัดขาแล้วครับ ติดตามได้จาก ศ.นพ.ประมุข มุทิรางกูร ภาควิชาศัลยศาสตร์
ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแผลเกิดขึ้นบริเวณเท้าได้บ่อย ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียขาและเสียชีวิตได้ แผลเบาหวาน แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1. แผลเส้นประสาทเสื่อม 2. แผลขาดเลือด และ 3. แผลติดเชื้อ แผลที่อันตรายและหายยากที่สุด คือ แผลขาดเลือด ซึ่งเป็นผลจากหลอดเลือดแดงในส่วนต่างๆ ของขาอุดตันจากแผ่นไขมัน ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงยังเนื้อเยื่อส่วนปลายไม่เพียงพอ แผลขาดเลือดมักเกิดขึ้นในระยะเริ่มแรกบริเวณนิ้วเท้า และต่อมาจะลุกลามสูงขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะแผลจะแห้ง ก้นแผลมีสีซีด อาจพบนิ้วเท้ามีสีดำจากการเน่าตายร่วมด้วย หากมีการติดเชื้อในแผลขาดเลือดนี้ การอักเสบจะลุกลามอย่างรวดเร็วจน
ผู้ป่วยต้องถูกตัดขาอย่างเร่งด่วน ซึ่งการดูแลรักษาแผลขาดเลือดนี้ หากพบว่าการขาดเลือดอยู่ในขั้นรุนแรงหรือขั้นวิกฤต ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงยังเนื้อเยื่อส่วนปลายโดยเร็วที่สุด
การรักษาภาวะขาดเลือดนี้มี 2 วิธี วิธีแรกเป็นการถ่างขยายหลอดเลือดมี่มีการตีบแคบโดยสายสวนลูกโป่ง (balloon angioplasty) และหรือการใช้ลวดค้ำยัน (endovascular stent) วิธีนี้ใช้กับการอุดตันของหลอดเลือดแดงที่มีขนาดสั้น ส่วนวิธีที่สองเป็นการผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินหลอดเลือดแดง (arterial bypass surgery) ใช้กับการอุดตันของหลอดเลือดแดงที่มีขนาดยาว ซึ่งการรักษาทั้งสองวิธี นอกจากแผลขาดเลือดจะมีปริมาณเลือดมาเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังทำให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามการรักษาทั้งสองวิธีจำเป็นต้องมีหลอดเลือดแดงของขาในส่วนที่อยู่ปลายต่อการอุดตัน อยู่ในสภาพที่ดี การรักษาจึงจะเป็นผลสำเร็จ หากหลอดเลือดแดงของขาไม่มีสภาพที่ดีเพียงพอ การรักษาจะไม่ประสบความสำเร็จ ผู้ป่วยอาจต้องถูกตัดขาในที่สุด
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดขา สาขาวิชาศัลยศาสตร์หลอดเลือด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล จึงได้คิดค้นวิธีการผ่าตัดในผู้ป่วยที่มีแผลขาดเลือดขั้นวิกฤต และสภาพหลอดเลือดแดงของขาไม่ดีพอที่จะรักษาโดยวิธีดั้งเดิมได้ ซึ่งหลักการของนวัตกรรมการผ่าตัด จะใช้หลอดเลือดดำในชั้นลึกบริเวณข้อเท้าเป็นทางนำเลือดจากหลอดเลือดแดงของขาส่วนที่อยู่สูงกว่าการอุดตันไปยังระบบหลอดเลือดดำทั้งหมดของเท้า เสมือนหนึ่งเป็นการเปลี่ยนทางเข้า-ออกของระบบไหลเวียนโลหิตของเท้า ทำให้มีปริมาณเลือด อาหาร และออกซิเจนจำนวนมากมายมาหล่อเลี้ยงในระบบไหลเวียนโลหิตของเท้าทั้งหมด ช่วยให้แผลขาดเลือดหายเร็ว และผู้ป่วยฟื้นตัวกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติอีกครั้ง ซึ่งนวัตกรรมการผ่าตัดวิธีนี้มีส่วนสำคัญในการช่วยให้อัตราการหายของแผลขาดเลือด และอัตราการเก็บรักษาขาในผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
สิ่งสำคัญคือ หมั่นตรวจสอบเท้าของผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างใกล้ชิดทุกวัน นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องทำความสะอาดเท้าและสวมรองเท้าอย่างถูกต้องตลอดเวลา รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานควรได้รับการตรวจสภาพหลอดเลือดแดงของขาเป็นประจำทุกปี และหากผู้ป่วยมีแผลเกิดขึ้นบริเวณเท้าเพียงเล็กน้อย จำเป็นต้องรีบให้การประเมินและรักษาอย่างถูกต้องทันที เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้รอดพ้นจากการถูกตัดขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|