ภาวะกระดูกหักในผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความแข็งแรงของกระดูกลดลง รวมถึงการลื่นล้ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวัง และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ ผศ.นพ.ก้องเขต เหรียญสุวรรณ ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด มีวิธีป้องกันมาฝากค่ะ
การรักษากระดูกหักในผู้สูงอายุนั้น จะต้องครอบคลุมทั้งเรื่องการรักษากระดูกหัก การรักษาภาวะกระดูกพรุน และการป้องกันการล้ม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิมโดยเร็ว เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา
ส่วนใหญ่ภาวะกระดูกหักในผู้สูงอายุ จะเกิดที่ข้อมือ กระดูกสันหลังและข้อสะโพก ซึ่งกระดูกสะโพกหักนั้นมีแนวโน้มที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดมากที่สุด เมื่อผู้สูงอายุล้ม และสงสัยว่าจะมีกระดูกหัก เช่น อาการเจ็บหรือขัด เคลื่อนไหวลำบาก ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ วินิจฉัย และรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็ว เพราะหากรอดูอาการอยู่นาน อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนซึ่งจะส่งผลในด้านลบของการรักษา
สำหรับการรักษาภนาวะกระดูกพรุนนั้น มักเริ่มจากการตรวจเพื่อวินิจฉัย เช่น การตรวจความหนาแน่นกระดูก และการตรวจเลือดที่เรียกว่า bone marker เพื่อประเมินภาวะการสร้างและการสลายกระดูกของผู้ป่วย จากนั้นพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ส่วนการป้องกันการล้มสามารถกระทำควบคู่กันไป เช่น ปรับสภาพที่อยู่อาศัยเพื่อลดการสะดุดล้มของผู้สูงอายุ การใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงตัวก็เป็นการป้องกันที่ดีอีกวิธีหนึ่ง หากป้องกันแล้วยังมีการหักของกระดูกเกิดขึ้น ควรทำการดามบริเวณที่หักให้อยู่นิ่งด้วยวัสดุแข็ง เช่น แผ่นไม้ก่อนเคลื่อนย้ายเพื่อลดความเจ็บปวด และการบาดเจ็บเพิ่มเติม จากนั้นนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจรักษาต่อไป
|