เพื่อต้อนรับปีใหม่ 2555 วันนี้รายการพบหมอศิริราช ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านยิ้มรับปีใหม่ ด้วยความปลอดภัยทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ กับบ้านที่สะอาด ปราศจากเชื้อโรค ซึ่ง ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทย ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มีคำแนะนำมาฝากค่ะ
สำหรับการต้อนรับปีใหม่ หลายท่านที่บ้านประสบอุทกภัย ช่วงปีใหม่นี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการปรับปรุงและดูแลทำความสะอาดบ้านให้ปราศจากเชื้อโรค ซึ่งแอบแฝงปะปนอยู่ในบ้าน ที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า การสัมผัสหรือหายใจเอาเชื้อโรคเข้าไป เท่ากับเราอยู่กับภัยร้ายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอย่างแรก คือ การป้องกันตนเองก่อนลงมือทำความสะอาด เช่น ใส่ถุงมือยาง สวมรองเท้าบูท ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก เพื่อช่วยป้องกันการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อรา หรือเชื้อโรคต่างๆ และไอระเหยของสารเคมีที่จะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เพื่อให้บ้านเราไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อในระหว่างการทำความสะอาด ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะเชื้อโรคต่างๆ จะถูกดูดเข้าไปอยู่ในระบบปรับอากาศและกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค ซึ่งถือเป็นภัยเงียบที่เรามองไม่เห็น ดังนั้นจึงควรเปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเทให้มากที่สุด และถ้าเกิดเชื้อราบนพื้น ผนัง เพดาน หรือเฟอร์นิเจอร์ ควรใช้เครื่องดูดฝุ่น เพื่อไม่ให้เชื้อโรคฟุ้งกระจาย และนำออกไปทำความสะอาดนอกบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสปอร์จากเชื้อรา ก่อนนำไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งก่อนใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ต้องอ่านวิธีใช้ ส่วนผสม ให้ละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากเป็นไปได้ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อกำจัดกลิ่นที่เป็นสารชีวภาพ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดคราบไขมันและไม่เป็นอันตรายต่อตัวเราด้วย สำหรับการดูแลทำความสะอาดของใช้ในครัว แก้วน้ำ จาน ชาม ทั้งกระเบื้องและพลาสติก ให้ผสมคลอรีน 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำร้อน 1 แกลลอน แช่ไว้อย่างน้อย 10 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรคต่างๆ แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง และล้างด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้ง ก่อนนำมาใช้ใส่อาหาร ส่วนอุปกรณ์เครื่องครัวที่เป็นโลหะ เช่น ช้อน ส้อม มีด หม้อ กระทะ ให้นำไปต้มในน้ำเดือด อย่างน้อย 10 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อ แล้วใช้น้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของสารชีวภาพเอนไซม์ ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคและไม่เป็นอันตราย ทำความสะอาดอีกครั้ง ก็จะช่วยให้มั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรคอีกระดับหนึ่ง และขอฝากข้อคิดเตือนสติ สำหรับของใช้ที่แช่อยู่ในน้ำท่วมขัง และไม่คุ้มกับความเสี่ยงในการนำมาใช้งานอีก ควรตัดใจกำจัดออกไปจากบ้านเพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายของเชื้อโรคครับ
|