ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ทำให้งูหรือสัตว์มีพิษต่าง ๆ หนีน้ำ เข้ามาอาศัยใกล้คนเพิ่มขึ้น การดูแลป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกสัตว์มีพิษกัด ทำอย่างไร ฟังรายละเอียดจาก รศ.นพ.วินัย รัตนสุวรรณ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม กันค่ะ
ปัญหาสุขภาพสำหรับผู้ประสบอุทกภัยในแหล่งน้ำท่วมขัง เป็นเรื่องน่าเห็นใจอย่างมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้ถูกสัตว์มีพิษกัด ที่พบบ่อยคือ งู โดยสวมรองเท้าหุ้มข้อสูง แทนการใส่รองเท้าแตะ จัดการพื้นที่ส่วนที่รกรุงรังให้เป็นระเบียบ ไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของงู และสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น แต่ถ้าถูกงูกัด การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ใช้เชือกรัดเหนือบาดแผลประมาณ 5-15 ซม. รัดให้พอสอดนิ้วเข้าไปได้ อย่ารัดแน่นจนเกินไป เพียง รัดเพื่อกันไม่ให้พิษงูดูดซึมเข้าสู่ท่อน้ำเหลือง เส้นเลือดดำ และไหลเข้าสู่หัวใจ ถ้าหากว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะพบแพทย์ ก็ควรจะเปลี่ยนบริเวณที่รัดเชือก โดยรัดอีกเปราะหนึ่งเหนือที่รัดครั้งแรก แล้วจึงคลายเปราะเดิมออก จัดท่าให้ส่วนที่งูกัดอยู่ต่ำกว่าระดับหัวใจ โดยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวน้อยที่สุด จะได้ไม่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ที่จะทำให้พิษเข้าสู่หัวใจได้เร็วขึ้น แล้วทำความสะอาดบาดแผลที่ถูกงูกัดด้วยน้ำสะอาด หรือแอลกอฮอล์ ซึ่งอาการของพิษงูจะเกิดได้ตั้งแต่ 15-30 นาที หรืออาจนานถึง 9 ชั่วโมง จึงต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะถ้าถูกงูมีพิษกัด ให้สังเกตรอยเขี้ยว จะมีลักษณะเป็นแผลลึก 2 รอย สำหรับพิษของตะขาบ มักทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง ไม่รุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิต ให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ จากนั้นประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดบวม แต่ถ้าบวมมากจนเนื้อเริ่มดำต้องรีบมาพบแพทย์ เพราะอาจกลายเป็นเนื้อตายจนต้องตัดทิ้ง ไม่ว่าจะถูกสัตว์มีพิษใดกัด การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกต้องก่อนถึงมือแพทย์เป็นสิ่งสำคัญและควรใส่ใจ
|