ออกอากาศ : วันที่ 9 ตุลาคม 2554  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: คันหู ทำอย่างไร
บทคัดย่อ:

           อาการคันหูเป็นอาการที่พบได้บ่อย  และสร้างความรำคาญเป็นอย่างมาก สาเหตุอาจเกิดจากหูชั้นนอกอักเสบ หรืออาจมีการติดเชื้อที่หู อาการเหล่านี้มีวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร รศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา  อธิบายว่า อาการคันหูเกิดจากหลายสาเหตุ  ส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยใช้ไม้พันสำลีปั่นช่องหู หรือใช้นิ้วแคะ ทำให้ผิวหนังของช่องหูชั้นนอกอักเสบเรื้อรัง  เกิดอาการคันหู  บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนกลายเป็นหูชั้นนอกอักเสบ ติดเชื้อแบคทีเรียหรือเกิดฝีของหูชั้นนอกได้  นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากหูชั้นกลางอักเสบ แล้วเยื่อบุแก้วหูทะลุ มีหนองไหลออกมา   ทำให้เกิดการอักเสบของช่องหูชั้นนอก หรือโรคต่อมไขมันอักเสบ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้  หรือโรคทางกายบางชนิด เช่น โรคตับอักเสบ  เบาหวาน โรคเลือด  มะเร็งต่อมน้ำเหลือง  ก็ทำให้เกิดอาการคันหูได้  สำหรับอาการคันหู  แพทย์จะวินิจฉัยโดยการซักถามอาการและตรวจหู  ซึ่งอาจเห็นผิวหนังของช่องหูแห้ง  แดง หรือพบรอยถลอกเป็นแผล หรือผิวหนังอักเสบ การรักษาอาจใช้ยาสเตียรอยด์ ทาหรือหยอดหู เพื่อลดอาการอักเสบและอาการคัน หรือรับประทานยาแก้แพ้  นอกจากนี้ระวังอย่าให้น้ำเข้าหู  เนื่องจากผู้ป่วยมักใช้ไม้พันสำลีซับน้ำในช่องหูหลังอาบน้ำ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังช่องหูเรื้อรัง ทำให้เกิดการอักเสบและอาการคันอีกด้วย   โดยปกติรูหูส่วนนอกจะมีต่อมไขมันที่สร้างขี้หูให้ออกมาปะปนกับส่วนที่หลุดลอกออกมาจากชั้นผิวของรูหูส่วนนอก เพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคหลุดเข้าไปได้ และมีสารที่ออกฤทธิ์เป็นกรด เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ไม้พันสำลี หรือนิ้วแคะขี้หูออกมา

           การดูแลสุขภาพหูเป็นสิ่งที่ต้องทำและห้ามละเลยเป็นอันขาดเพื่อป้องกันความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับหู เพราะอาจนำมาซึ่งปัญหาสูญเสียการได้ยินได้  การดูแลหู ทำได้โดยใส่วัสดุอุดรูหู  หรือใส่หมวกอาบน้ำทุกครั้ง  เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าหู  และไม่ควรซื้อยาหยอดหูมาใช้เอง เพราะอาจแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาที่หยอดเข้าไปในหูได้

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช