ออกอากาศ : วันที่ 22 พฤษภาคม 2554 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
นอนกรนในเด็ก |
บทคัดย่อ:
|
จากผลการวิจัยพบว่า เด็กไทยนอนกรนเป็นประจำร้อยละ 10 และมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร้อยละ 1 ของประชากร ซึ่งจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กก่อนวัยเรียนและในช่วงประถมศึกษา ผศ.นพ.วิชญ์ บรรณหิรัญภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา อธิบายว่า นอนกรนเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ากำลังมีการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้น และที่สำคัญคือ เป็นอาการอย่างหนึ่งของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (obstructive sleep apnea หรือ OSA) ซึ่งมีสาเหตุที่พบบ่อยและสำคัญที่สุด คือ การมีต่อมทอนซิลหรือต่อมอะดีนอยด์โต เยื่อบุจมูกอักเสบเรื้อรังจากภูมิแพ้ ภาวะอ้วน นอกจากนี้อาจมาจากโครงหน้าผิดปกติ คางสั้น คางเล็ก หน้าแคบ ตลอดจนโรคทางพันธุกรรม โรคทางสมองและกล้ามเนื้อที่มีผลต่อการหายใจ หากเด็กมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับและปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้พัฒนาการด้านร่างกายและสติปัญญาผิดปกติตามมา วิธีการสังเกตว่าเด็กจะมีภาวะนี้หรือไม่ สามารถดูได้จากอาการต่าง ๆ ได้แก่ นอนกรนดังเป็นประจำ นอนกระสับกระส่ายหายใจลำบาก ต้องหายใจทางปากบ่อย ๆ ปัสสาวะรดที่นอน พฤติกรรมก้าวร้าวซุกซนกว่าปกติ หรือเติบโตช้าและมีผลการเรียนแย่ลง นอกจากนี้ถ้ารุนแรงมากอาจมีภาวะความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจโตร่วมด้วยได้ เป็นต้น เมื่อมาพบแพทย์ เด็กที่นอนกรนจะได้รับการซักประวัติ ตรวจร่างกายตั้งแต่บริเวณศีรษะ ใบหน้า หู คอ จมูก ช่องปาก ตรวจปอดและหัวใจ อาจมีการเอกซเรย์บริเวณศีรษะด้านข้าง เพื่อดูความกว้างของทางเดินหายใจ และหากทำได้เด็กที่นอนกรนควรรับการทดสอบการนอนหลับ(sleep test) เพื่อตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด ระบบหายใจ รวมถึงคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งสามารถทำในโรงพยาบาลหรือที่บ้านตามความเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและช่วยเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป สำหรับแนวทางการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับในเด็ก ควรเริ่มต้นที่ การปรับสุขอนามัยการนอน นอนพักผ่อนให้พอเพียง เข้านอนและตื่นอย่างตรงเวลาสม่ำเสมอ ในรายที่อ้วนต้องลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร งดรับประทานขนมจุกจิก หรืองดน้ำหวานและต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการรักษาด้วยยาที่ใช้บ่อย ได้แก่ การใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก ยารักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ หรือยาแก้อักเสบเพื่อรักษาต่อมทอนซิลติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่อง CPAP และรวมถึงการใช้เครื่องขยายขากรรไกร ซึ่งเป็นทางเลือกอื่น ๆ อย่างไรก็ดีการรักษาด้วยการผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์ เป็นการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดและมีภาวะแทรกซ้อนน้อยมาก แต่จะรักษาวิธีใดขึ้นอยู่กับแต่ละรายไป การนอนกรนนั้นเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น ซึ่งมีอันตรายที่ซ่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามภาวะนี้สามารถรักษาได้ผลดี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา ดังนั้นหากบุตรหลานของท่าน นอนกรนเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำหรือการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
|
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|