การนั่งทำงานนาน ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกคนในวัยทำงาน รายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น อ.นพ.ลิขิต รักษ์พลเมือง ภาควิชาศัลยศาสตร์ ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด อธิบายว่า โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หรือ myofascial pain syndrome มักเป็นต้นตอของตำแหน่งกดเจ็บ หรือ Trigger Point ซึ่งเป็นจุดที่เรากดลงไปแล้วรู้สึกปวด เหมือนมีก้อนแข็ง ๆ เล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่สะสมต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานานจนเกิดเป็นก้อนเล็กขนาด 0.5-1 เซนติเมตร Trigger Point จำมาก หรือจุดกดเจ็บจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ในกล้ามเนื้อ ต้นเหตุอย่างหนึ่งคือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ รวมทั้งออกซิเจนที่ส่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่เพียงพอ เกิดการคั่งของเสียในบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อแข็งและเกร็งมีอาการปวดลามไปยังยังบริเวณใกล้เคียงจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังตามมา ส่วนใหญ่จะเกิดที่กล้ามเนื้อส่วนบนตั้งแต่ คอ บ่า ไหล่ สะบัก หลัง อาการปวดร้าวลึกของกล้ามเนื้ออาจจะปวดตลอดเวลา หรือปวดเฉพาะเวลานั่งทำงาน บางคนอาจเป็นหนักจนไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อส่วนนั้นได้ หรือบางคนอาจลามไปปวดถึงศีรษะ กระตุ้นการเกิดไมเกรน ทำให้นอนไม่หลับ มีอาการชาตามมือและแขนและทำให้เกิดปัญหาโครงสร้างและใช้งานของร่างกาย เช่น ไหล่สูงต่ำไม่เท่ากัน หลังงอ หรือมีปัญหาในการ เดินและทรงตัว การรักษาจะใช้การบริหารกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ เช่น ฝึกยืดกล้ามเนื้อบริเวณลำตัวบน ต้นแขนและคอ นวด ทายาคลายกล้ามเนื้อ หรือรับประทานยา รวมทั้งประคบด้วยความร้อน การกระตุ้นกล้ามเนื้อ ด้วยไฟฟ้าเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว ผลการรักษาจะทำให้รู้สึกดีขึ้น ลดความเจ็บปวดได้ แต่พึงระวังสิ่งที่ทำให้เกิดโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ได้แก่ การนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม การทำงานที่มีการใช้กล้ามเนื้อท่าเดียวกันซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน กล้ามเนื้อขาดการพักผ่อน รวมถึงไม่ได้รับการบริหาร กล้ามเนื้อ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องหลีกเลี่ยง การหมั่นดูแลตัวเอง อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและแก้ไขได้ทันท่วงที เช่น ถ้ากล้ามเนื้อคอเกิดความตึงเครียดระหว่างนั่งปฏิบัติงาน วิธีบริหารง่าย ๆ มีดังนี้ ท่าที่ 1 หันศีรษะไปทางด้านซ้ายช้าๆ ใช้มือซ้ายช่วยดึงค้างไว้ ท่าที่ 2 ก้มศีรษะพยายามให้คางชิดอกมากที่สุด ท่าที่ 3 เงยหน้าขึ้นช้า ๆ ไปด้านหลังให้มากที่สุด ท่าที่ 4 เอียงศีรษะไปทางด้านขวา ใช้มือขวาช่วยดึง พยายามให้ศีรษะชิดไหล่มากที่สุด ท่าที่ 5 หันศีรษะไปทางด้านซ้าย 45 องศา ใช้มือขวาช่วยดึงพร้อมก้มลงช้า ๆ ให้มากที่สุดค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นสลับทำด้านขวา
|