ออกอากาศ : วันที่ 10 ตุลาคม 2553 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
ภาวะบวมน้ำเหลือง |
บทคัดย่อ:
|
ภาวะบวมน้ำเหลือง หรือ Lympheadema คือภาวะที่มีน้ำเหลืองคั่ง พบได้ทั้งที่แขนและขา อาจพบในโรคเท้าช้าง หรือหลังการผ่าตัด ภาวะบวมน้ำเหลือง คือภาวะที่มีน้ำเหลืองคั่ง ไม่สามารถไหลกลับมาสู่หัวใจได้ตามปกติ ทำให้ส่วนปลายของแขน ขา มือ เท้า ถุงอัณฑะ และที่แคมอวัยวะเพศบวมได้ รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ อธิบายว่า โรคนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคเท้าช้าง ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อ โดยมียุงเป็นพาหะ พบทางภาคใต้ หรืออีกสาเหตุที่พบบ่อยคือผลจากการผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองหรือการฉายรังสีเพื่อรักษา ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ทำให้เกิดพังผืดกั้นท่อน้ำเหลือง ส่งผลให้ส่วนปลายแขนและขาบวมขึ้น ภาวะบวมน้ำเหลือง อาจตามมาด้วยการอักเสบ ผิวหนังบริเวณที่บวมจะร้อนขึ้นอย่างชัดเจน จับแล้วรู้สึกเจ็บปวด ผิวหนังอาจเป็นจ้ำสีแดง ในรายที่เป็นมาก อาจมีไข้สูง หนาวสั่น ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลือง ไม่ใช่ว่าจะมีภาวะบวมน้ำเหลืองทุกราย แต่สามารถป้องกันได้ โดยหลีกเลี่ยงการให้น้ำเกลือ การวัดความดัน การเจาะเลือด ในแขนหรือขาข้างที่ได้รับการผ่าตัดและอย่าออกแรงมากๆ เช่น ยกของหนัก เพราะอาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำเหลืองได้ ภาวะบวมน้ำเหลืองนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาที่ได้ผล นอกจากการป้องกัน มีรายงานการวิจัยเรื่องการผ่าตัดต่อหลอดน้ำเหลืองเข้ากับหลอดเลือดดำ พบว่าสามารถแก้ไขภาวะบวมน้ำเหลืองได้ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย ซึ่งอาจเป็นความหวังให้กับผู้ป่วยที่มีภาวะบวมน้ำเหลืองได้ในอนาคต สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องภาวะบวมน้ำเหลือง เพราะปัจจุบัน การตรวจต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล สามารถช่วยให้ผู้ป่วยที่ยังไม่มีการแพร่กระจายของโรค ไม่ต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก็จะไม่เสี่ยงต่อภาวะบวมน้ำเหลือง ภาวะบวมน้ำเหลือง หลังการผ่าตัด พบได้ประมาณ 10% ดังนั้น การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งสกปรก เช่น การล้างห้องน้ำ ทำสวน ลุยน้ำครำ เพราะอาจทำให้เกิดแผลเปิดและติดเชื้อ ยิ่งอักเสบติดเชื้อมากเท่าใด อาการบวมก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|