ออกอากาศ : วันที่ 18 กรกฎาคม 2553  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: ลดความดันตา เยียวยาต้อหิน
บทคัดย่อ: การมองเห็นที่มัวลงหรือค่อย ๆ แคบลง อาจมีสาเหตุมาจากโรคต้อหินที่เกิดจากความดันตาสูง  ทำให้เกิดการทำลายเส้นประสาทตา ส่งผลทำให้ตาบอดได้ รศ.นพ.นริศ  กิจณรงค์  ภาควิชาจักษุวิทยา   อธิบายว่า โดยปกติแพทย์จะวัดความดันตา โดยการใช้ยาชาหยอดตา ซึ่งปกติจะมีค่าน้อยกว่า 21 มม.ปรอท ส่วนคนที่มีความดันตามากกว่า 21  มม.ปรอท คือผู้ที่อาจเป็นต้อหิน โรคต้อหินสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือประเภทที่มีอาการ ได้แก่ ต้อหินมุมปิดเฉียบพลัน และประเภทที่ไม่มีอาการ ได้แก่ ต้อหินเรื้อรัง  ต้อหินประเภทที่มีอาการ ความดันตาจะสูงขึ้นเฉียบพลัน ทำให้เกิดอาการปวดตา ตาแดง การมองเห็นไม่ชัดเจน ต้องไปพบจักษุแพทย์ เพื่อทำการรักษาโดยทันที ประเภทที่ไม่มีอาการ ในช่วงแรกผู้ป่วยจะไม่มีปัญหาเรื่องการมองเห็นเลย แต่สามารถพบได้ด้วยการตรวจสุขภาพตา โรคต้อหินไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมได้ด้วยการลดความดัน  โดยการใช้ยาหยอดตา  หากการใช้ยาเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถช่วยให้ความดันตาอยู่ในระดับที่ต้องการได้ จึงจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดซึ่งมีหลายวิธี และมีขั้นตอนที่แตกต่างกัน  ต้อหินบางชนิด อาจทำการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ได้ การผ่าตัดใช้สำหรับผู้ป่วยต้อหินที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาวิธีอื่นๆ หลังผ่าตัด ตาของผู้ป่วยยังคงเหมือนปกติ แต่จะมีรอยแผลผ่าตัดอยู่ด้านบน ซึ่งหนังตาจะลงมาปิดไว้ หากมีอาการตาแดง ตามัว ปวด ตา โดยเฉพาะเวลาพลบค่ำ อาจเห็นสีรุ้งรอบดวงไฟ หรือมีอาการปวดศีรษะ ควรนึกถึงโรคต้อหินชนิดมุมปิดเฉียบพลัน ถ้าไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วอาจตาบอดได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี ขึ้นไป มีประวัติคนในครอบครัวเป็นต้อหิน การตรวจสุขภาพตาสามารถตรวจโรคต้อหินได้  ส่วนผู้ที่เป็นต้อหินแล้วต้องใช้ยา  หยอดตาอย่างสม่ำเสมอ  ก่อนจะหยอดยา ควรล้างมือให้สะอาด  เขย่าขวดยาให้เข้ากัน  เอนตัวไปข้างหลัง กลอกตามองขึ้นบน ดึงหนังตาล่างลง เพื่อหยอดยา แล้วหลับตาสักครู่ อาจช่วยกดที่หัวตาเบาๆ 1-2 นาที เพื่อมิให้ยาไหลลงคอ หากต้องหยอดยาชนิดอื่นให้รอ 5 นาที ค่อยหยอดยาชนิดใหม่

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช