ออกอากาศ : วันที่ 11 เมษายน 2553  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย
บทคัดย่อ: ใกล้ถึงวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทยเราแล้วประเพณีการเล่นน้ำสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมของไทยที่สืบทอดมานาน และในยุคปัจจุบัน รูปแบบและวิธีการเล่นนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไป การใช้น้ำเล่นสงกรานต์ ซึ่งมาจากแหล่งน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำจากแม่น้ำลำคลองหรือน้ำในบึง ในเรื่องความสะอาดของน้ำเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก รศ.พญ. ดาราวรรณ วนะชิวนาวิน ภาควิชาปรสิตวิทยา อธิบายว่า ถ้าน้ำที่เรามาเล่นสงกรานต์เป็นน้ำที่ไม่สะอาด ก็จะพบเชื้อโรคที่ปนมากับน้ำได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส รวมทั้งปรสิตต่าง ๆ เช่น ไข่พยาธิ และอะมีบา เป็นต้น และเมื่อเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ปนมากับน้ำเข้าสู่ร่างกายเราทางปาก เชื้อโรคเหล่านั้นก็จะไปอาศัยอยู่ที่ลำไส้ อาจทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วง ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำหรือเป็นมูกปนเลือดได้ เช่น เชื้อโปรโตซัว เชื้อไข้ไทฟอยด์ เชื้อบิดอะมีบา เป็นต้น สำหรับผู้ที่เป็นแผล เชื้อโรคก็สามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน หากเรานำน้ำที่ไม่สะอาดมาเล่นสงกรานต์ แล้วน้ำเข้าตา อาจทำให้เกิดกระจกตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส รวมทั้งเชื้ออะมีบาที่อาศัยในน้ำ ได้แก่ Naegleria (นีเกลอเรีย) และ Acanthamoeba (อะแคนทะมีบา) ถ้าสำลักน้ำที่มีเชื้อ Naegleria เข้าทางจมูกจะทำให้มีไข้ ปวดศีรษะคล้ายเป็นหวัด และการได้รับกลิ่นจะเสียไป อาการปวดศีรษะนี้จะรุนแรงขึ้นและมีอาการคอแข็ง หลังแข็งซึ่งเป็นอาการของสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แม้ว่าผู้ป่วยจากเชื้ออะมีบานี้จะพบได้ไม่บ่อยนัก หากแต่เวลาเล่นน้ำก็ควรระมัดระวังไม่ให้สำลักน้ำ สำหรับกรณีที่น้ำไม่สะอาดเข้าตา อาจต้องระวังการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และอะแคนทะมีบาด้วย ซึ่งต้องล้างตาด้วยน้ำที่สะอาดมากๆ ผู้ที่สำลักน้ำเข้าทางจมูก ก็ต้องรอดูว่าจะมีอาการไข้ น้ำมูกไหล หรือปวดศีรษะหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ เราสามารถป้องกันได้ด้วยการใช้น้ำสะอาดในการเล่นสงกรานต์ การเล่นน้ำสงกรานต์ควรใช้น้ำประปาซึ่งเป็นน้ำสะอาด แต่ถ้าใช้น้ำตามแม่น้ำ ลำคลอง ควรเป็นน้ำที่ดูใส สะอาด และไหลเวียนดี แต่ก็ต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง ส่วนน้ำสกปรก ไม่สมควร นำมาเล่นสงกรานต์กัน รักษาประเพณีการเล่นสงกรานต์อย่างมีวัฒนธรรมเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช