ออกอากาศ : วันที่ 24 มกราคม 2553  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: มะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้
บทคัดย่อ:

ปัจจุบัน มะเร็งปากมดลูกยังคงสถิติเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในหญิงไทย  แต่ละปีมีผู้ป่วยใหม่กว่า 6,000 ราย การป้องกันทำได้อย่างไรนั้น รศ.นพ.มงคล  เบญจาภิบาล ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา อธิบายว่า  สถานการณ์ของโรคมะเร็งปากมดลูกขณะนี้พบว่า  ในแต่ละวันจะมีหญิงไทยเสียชีวิตประมาณ 7 ราย เนื่องจากสาเหตุของโรคเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวีที่มากับการมีเพศสัมพันธ์  ดังนั้นการป้องกันระดับแรก คือ การมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม เช่นไม่สำส่อนทางเพศ ไม่เปลี่ยนคู่นอนหลายคน นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีการผลิตวัคซีนมาใช้เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก  ระดับต่อไปคือ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ หรือที่เรียกติดปากว่า “การตรวจแป๊ปสเมียร์” ซึ่งเป็นการตรวจหาความผิดปกติที่ปากมดลูกก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง ในกรณีที่ผลการตรวจพบว่ามีความผิดปกติ ส่วนมากมักพบเซลล์ผิดปกติก่อนที่เป็นมะเร็ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหญิงคนนั้นเป็นมะเร็งปากมดลูก จึงไม่ควรมีความวิตกกังวลมากเกินไป ในกรณีที่พบเซลล์ผิดปกติในระดับอ่อน ๆ หรือขั้นต่ำ แพทย์จะนัดตรวจติดตามเป็นระยะๆ ซึ่งกลุ่มนี้สามารถหายได้เองเป็นส่วนใหญ่  แต่ถ้าตรวจพบเซลล์ผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งในระดับที่มากขึ้นหรือขั้นสูงแพทย์อาจจะแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม  และผ่าตัดปากมดลูก เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม  โดยคุณผู้หญิงควรหมั่นดูแลสุขภาพและตรวจสุขภาพประจำปี  เพื่อพบความผิดปกติของปากมดลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้  การตรวจพบเมื่อโรคลุกลามมากแล้ว มักมีผลการรักษาที่ไม่ดีและมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิตจากโรคนี้  นอกจากนี้การป้องกันตัวเองตั้งแต่เริ่มแรก ย่อมดีกว่าการรักษาเยียวยาตัวเองทีหลัง ซึ่งสุภาพสตรีสามารถฉีดวัคซีน เอชพีวี  เพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก  ซึ่งวัคซีน เอชพีวี ควรฉีดในผู้หญิงที่ยังไม่เคยติดเชื้อเอชพีวี หรือก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก  อายุที่แนะนำ คือ 9-26 ปี และการฉีดวัคซีนจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 และ 3 จะเว้นระยะห่าง 1 และ 6 เดือน    

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช