ออกอากาศ : วันที่ 16 สิงหาคม 2552  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: สเต็มเซลล์ รักษากระจกตาเสื่อม
บทคัดย่อ:

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระจกตาคงความใส มองเห็นได้ชัดเจนเกิดจากสเต็มเซลล์ของผิวกระจกตา  หากสเต็มเซลล์นี้เสื่อมหรือตายจะส่งผลอย่างไร  รศ.พญ.ภิญนิตา  สินธุวนิชย์  ภาควิชาจักษุวิทยา อธิบายว่า สเต็มเซลล์ของผิวกระจกตา คือ เซลล์ที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนโรงงานคอยสร้างเซลล์ผิวกระจกตาขึ้นมาทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไปตลอดเวลา ทำให้ผิวกระจกตาคงความใสและไม่เป็นแผล ตลอดจนทำหน้าที่เสมือนเขื่อนป้องกันไม่ให้เส้นเลือดจากเยื่อตาโตรุกเข้ามาในกระจกตาได้  ผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อเนื้อ โรคแพ้อย่างรุนแรงเช่น โรคsteven-johnson การได้รับอันตรายจากสารเคมีเข้าตา หรือมีการติดเชื้อที่กระจกตา จะเกิดภาวะผิวกระจกตาเสื่อม  ซึ่งจะทำให้มีเส้นเลือดงอกเข้ามาในกระจกตา ตาขุ่น ตามัวลง และมีแผลถลอกเกิดขึ้นบ่อยที่กระจกตา ทำให้กระจกตาติดเชื้อง่าย  ซึ่งภาวะผิวกระจกตาเสื่อมนี้  เป็นภาวะที่รักษายาก หากเป็นรอบกระจกตา การรักษาจำเป็นต้องทำการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ของผิวกระจกตา ไม่สามารถใช้การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาตามปกติได้ เนื่องจากกระจกตาที่นำมาเปลี่ยนจะกลับขุ่นมัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่มีสเต็มเซลล์  การรักษาแม้จะมีการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ที่นำมาจากตาข้างดี แต่มักมีปริมาณน้อยและหากนำเซลล์ผู้อื่นมาปลูกถ่ายจำเป็นต้องใช้ยากดภูมิป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกริยาต่อต้าน  เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ก้าวใหม่ของการรักษากระจกตาเสื่อมด้วยสเต็มเซลล์ เทคโนโลยีใหม่โดยการนำสต็มเซลล์ไปเพาะเลี้ยงในห้องปฎิบัติการเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ให้เพียงพอแก่ความต้องการ ก่อนนำมาปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วย  วิธีนี้ได้รับการ ยอมรับว่าเป็นมาตรฐานหนึ่งในการรักษาภาวะการเสื่อมของผิวกระจกตาที่ได้ผลดี  ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สามารถทำการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ของผิวกระจกตาในห้องปฏิบัติการบนเยื่อรกโดยวิธีปลอดเชื้อและได้ปลูกถ่ายกลับไปให้ผู้ป่วยแล้วเป็นผลสำเร็จนับเป็นก้าวใหม่ของการรักษาภาวะการเสื่อมของเซลล์ผิวกระจกตา ช่วยเพิ่มความหวังใหม่ในการรักษาให้กับผู้ป่วย

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช