ออกอากาศ : วันที่ 3 พฤษภาคม 2552  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง: แนวทางใหม่ในการรักษานอนกรน
บทคัดย่อ:

การนอนกรนเป็นความผิดปกติของการนอนหลับ บ่งบอกถึงการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบน  ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ผศ.นพ.ปารยะ  อาศนะเสน  ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา อธิบายว่า ผู้นอนกรน จะมีช่องทางเดินหายใจส่วนบนแคบกว่าปกติ เวลานอนหงายและหลับสนิท ลมหายใจที่ผ่านบริเวณช่องแคบ ดังกล่าว จะเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดเสียงกรน การนอนกรน พบว่าผู้ชายจะเป็นมากกว่าผู้หญิง และจะเป็นมากขึ้นตามอายุ อาการนอนกรน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ การนอนกรนธรรมดา ที่ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ  กับการนอนกรนที่เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตมีผลต่อสุขภาพ  การแก้ไขปัญหานอนกรน แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาตามความรุนแรงของโรค โดยมีแนวทางใหม่ในการรักษา ได้แก่ วิธีที่ไม่ผ่าตัด โดยการใช้เครื่องครอบฟันสวมใส่ปากขณะหลับ เพื่อป้องกันไม่ให้ลิ้นหรือเนื้อเยื่ออ่อนในลำคอตกลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ ช่วยให้การนอนกรนลดลง  อีกวิธี คือการผ่าตัดโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ เป็นการนำเข็มพิเศษเข้าไปในเนื้อเยื่ออ่อน เช่น เพดานอ่อน ต่อมทอนซิล โคนลิ้น หรือเยื่อบุจมูก วิธีนี้จะทำให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้นสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิธี การฝังพิลลาร์ เข้าไปในเพดานอ่อนในปาก โดยไม่ได้ตัดหรือทำลายเนื้อเยื่อ พิลลาร์จะช่วยลดการสั่นสะเทือน หรือการสะบัดของเพดานอ่อนและพยุงไม่ให้เพดานอ่อนในปากปิดทางเดินหายใจได้โดยง่าย วิธีนี้จะทำให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น หายใจสะดวกขึ้น อาการนอนกรนลดน้อยลง การรักษาอาการนอนกรน ด้วยวิธีใช้คลื่นความถี่วิทยุและการฝังพิลลาร์แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่  ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล  สำหรับผู้ที่มีปัญหานอนกรน สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ  ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์  ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อแข็งแรง และหลีกเลี่ยงการนอนหงายโดยพยายามนอนในท่าตะแคงข้างและนอนศีรษะสูงเล็กน้อย  และสุดท้าย หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  งดรับประทานยานอนหลับหรือยากล่อมประสาทก่อนนอน

กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช