ข่าวเรื่องการปนเปื้อนสารเมลามีน ทำให้หลายคนให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่ผสมมากับอาหาร ผศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม อธิบายว่า สารเมลามีนเป็นสารอินทรีย์ประกอบด้วยสารไซยานาไมต์ เมื่อนำไปเผาไฟจะเกิดเป็นฟอร์มาลีน และเนื่องจากเมลามีนมีลักษณะเป็นผงสีขาวละลายน้ำได้น้อยทำให้มีลักษณะคล้ายกับนมผง และถ้าหากเป็นเมลามีนบริสุทธิ์จะมีองค์ประกอบของไนโตรเจนสูงถึง 66.67% เมื่อคิดเทียบเป็นโปรตีนจะมีปริมาณสูงถึง 416.66% ทีเดียว ดังนั้นหากนำเมลามีนมาผสมในอาหารจะทำให้เข้าใจผิดว่าอาหารชนิดนั้น ๆ มีโปรตีนสูง คุณภาพได้มาตรฐาน เพราะว่าการตรวจหาค่าปริมาณของโปรตีนในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้โดยตรง แต่จะตรวจหาได้ทางอ้อมคือ ตรวจวัดที่ค่าไนโตรเจนแทน นอกจากนี้ยังมีสารเมลามีนที่ผสมมากับยากำจัดศัตรูพืชและตกค้างในดินหรือพืช เมื่อสัตว์กินหญ้าหรือพืชที่ปนเปื้อนจะทำให้เกิดการสะสมในร่างกายและในสารคัดหลั่งของสัตว์ เช่น น้ำนมทำให้การตรวจพบแหล่งที่มาของการปนเปื้อนสารเมลามีนทำได้ยาก สำหรับสารเมลามีนที่เรารู้จักกันโดยทั่วไป จะเป็นพวกภาชนะเมลามีน เช่น จาน ชาม หรือช้อน เพราะมีคุณสมบัติที่ทนต่อความร้อน แต่ก็ต้องใช้ตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เช่นห้ามนำภาชนะเมลามีนมาใช้อุ่นอาหารกับเตาไมโครเวฟ เพราะความร้อนจากไมโครเวฟจะทำให้เกิดสารฟอร์มาลดีไฮล์ปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ สำหรับสารเมลามีนนี้ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยได้หากสะสมมาก ๆ จะจับตัวเป็นก้อนแข็งกลายเป็นนิ่วในท่อปัสสาวะและกรวยไต ก่อให้เกิดมะเร็งที่ท่อปัสสาวะทำลายระบบสืบพันธุ์ หรือทำให้ไตวายเฉียบพลันได้ สำหรับพิษของสารเมลามีนนั้นเพียงแค่สูดดมเข้าไป หรือได้รับการสัมผัสกับผิวหนังก็ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ไม่จำเป็นต้องรับประทานเข้าไปโดยตรง และยังมี ข้อควรระวัง ไม่ควรนำภาชนะเมลามีนใส่อาหารร้อนหรือน้ำที่เดือดที่มีอุณหภูมิเกิน 100 องศาเซลเซียส และห้ามใช้ภาชนะเมลามีนอุ่นหรือปรุงอาหารในไมโครเวฟ
|