ออกอากาศ : วันที่ 31 สิงหาคม 2551 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
นิ้วล็อกรักษาได้ |
บทคัดย่อ:
|
ช่วงอากาศเย็นถ้าคุณตื่นนอนตอนเช้าแล้วรู้สึกเหยียดนิ้วบางนิ้วไม่ออก ลักษณะเช่นนี้อาจเป็นอาการของโรคนิ้วล็อกได้ อ.นพ. ต่อพล วัฒนาภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด อธิบายว่า โรคนิ้วล็อกเกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็นงอนิ้วที่บริเวณฝ่ามือตรงตำแหน่งโคนนิ้ว โดยจะเหยียดนิ้วบางนิ้วไม่ออกเหมือนโดนล็อก แต่กำมืองอนิ้วได้ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกนิ้ว และในบางคนอาจเป็นพร้อมกัน 2-3 นิ้วก็ได้ อาการนิ้วล็อกที่พบบ่อยที่สุดคือ นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วนาง ซึ่งจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในช่วงอายุ 40-50 ปี ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้มือทำงานในลักษณะเกร็งนิ้วบ่อย ๆ เช่น การบิดผ้า การหิ้วของหนัก การใช้กรรไกรตัดผ้า เป็นต้น อาการของโรคนิ้วล็อกจะแบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะแรกมีอาการปวดบริเวณโคนนิ้วมือ ถ้าเอานิ้วกดบริเวณฐานนิ้วมือด้านหน้าจะมีอาการปวดมากขึ้น แต่ยังไม่มีอาการสะดุด ระยะสองมีอาการสะดุดเวลาขยับนิ้ว งอนิ้ว และเหยียดนิ้ว ระยะสามมีอาการติดล็อก เมื่องอนิ้วลงไปแล้วจะไม่สามารถเหยียดนิ้วออกเองได้ ต้องเอามืออีกข้างหนึ่งมาช่วยแกะ หรืออาจมีอาการมากขึ้นจนไม่สามารถงอนิ้วลงได้เอง และระยะสี่มีอาการอักเสบและบวม ไม่สามารถเหยียดนิ้วให้ตรงได้ ถ้าใช้มือช่วยจะปวดมาก การรักษาอาการนิ้วล็อก ถ้าเป็นในระยะแรกจะให้รับประทานยาเพื่อลดการปวด บวม อักเสบ และพักการใช้มือ ถ้าเป็นระยะที่สองจะใช้เครื่องดามนิ้ว หรือการนวดเบา ๆ การใช้ความร้อนประคบ และออกกำลังนิ้วด้วยการเหยียดนิ้ว นอกจากนี้ยังมีการรักษาด้วยการใช้ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ ปวด บวม และเป็นการรักษาที่ได้ผลดี แต่มีข้อจำกัดคือ ไม่ควรฉีดยาเกิน 2 หรือ 3 ครั้ง ต่อนิ้วที่เป็นโรค สำหรับการรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัด โดยการตัดปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่หนาอยู่ให้เปิดกว้าง เพื่อให้เส้นเอ็นเคลื่อนผ่านได้สะดวก ไม่ติดขัด หลังผ่าตัดเสร็จก็กลับบ้านได้ ส่วนการผ่าตัดโดยใช้เข็มเขี่ย ยังไม่เป็นวิธีรักษาที่มาตรฐาน เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง ทำให้เกิดการบาดเจ็บของเส้นเอ็นและเส้นประสาทได้ |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|