ออกอากาศ : วันที่ 27 กรกฎาคม 2551 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
ไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ |
บทคัดย่อ:
|
ย่างเข้าฤดูฝน อากาศมักจะมีความชื้นและเย็น ทำให้เอื้อต่อการกระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ ภาควิชาอายุรศาสตร์ อธิบายไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอย่างฉับพลัน ที่เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อได้ง่ายโดยเชื้อโรคจะมาจากละอองน้ำมูก หรือเสมหะของผู้ป่วย การหายใจ การสัมผัสสิ่งปนเปื้อน หรือการเอามือไปสัมผัสเชื้อแล้วมาขยี้ตา เอาเข้าปาก ซึ่งจะทำให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ผ่านเข้าทางเยื่อบุตา จมูกและปากเกิดเป็นอาการไข้หวัดใหญ่ขึ้นมา หลังจากได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 1 - 3 วัน ผู้ป่วยจะแสดงอาการ มีไข้สูงฉับพลัน หนาวสั่น เจ็บคอ น้ำมูกใส ไอแห้ง ๆ หน้าแดง ตาแดง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะรุนแรง เบื่ออาหาร และอ่อนเพลีย อาการไข้จะสูงอยู่ประมาณ 2 ถึง 4 วัน แล้วจะค่อยดีขึ้น และจะหายได้เองภายใน 5 - 7 วัน แต่ก็อาจจะ มีผู้ป่วยบางรายมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งอาจมีอาการเยื่อหุ้มหัวใจและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูอักเสบ หลอดลมอักเสบ และปอดบวมอักเสบ ดังนั้นผู้ป่วยควรต้องมาพบแพทย์ เพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้อง การดูแลผู้สูงอายุเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้นอนพักผ่อนมาก ๆ อาบน้ำอุ่น กินอาหารอ่อน ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาตามอาการที่เป็น เช่น มีไข้สูงให้ รับประทานยาลดไข้พาราเชตตามอล จิบยาแก้ไอ ใช้ยาลดน้ำมูก แต่ไม่ จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะ ที่สำคัญขอให้ผู้ป่วยใช้ผ้าเช็ดหน้า หรือกระดาษทิชชูปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอจาม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ หมอขอแนะนำให้ฉีดวัคซีนก่อนเข้าสู่ฤดูฝน การฉีดวัคซีนปีละ 1 ครั้ง ภายหลังฉีด 2 - 4 สัปดาห์ ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ส่วนผู้สูงอายุหากได้รับการฉีด วัคซีน จะสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอัตราการเกิดไข้หวัดใหญ่ได้
|
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|