ออกอากาศ : วันที่ 9 มีนาคม 2551 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
ต่อหมันหญิง |
บทคัดย่อ:
|
จากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยที่เกิดขึ้นใน 5 จังหวัดภาคใต้ ทำให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียบุตร คณะแพทศาสตร์ศิริราชพยาบาลรู้สึกเห็นใจชาวบ้านเหล่านั้น จึงได้จัดทำโครงการศิริราชต่อหมันสืบทายาทแก่ผู้ประสบภัยสึนามิฟรี รศ.นพ.เรืองศิลป์ เชาวรัตน์ ภาควิชาสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา อธิบายว่า แต่ก่อนที่จะเริ่มการต่อหมันนั้นผู้หญิงที่เคยผ่านการทำหมันถาวรมาแล้ว ในทางการแพทย์ ถือว่าการทำหมัน เป็นการคุมกำเนิดถาวรที่ได้รับความนิยมที่สุด โดยการคีบท่อมดลูกหรือท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างมาผูกแล้วตัด ซึ่งร้อยละ 23 ของผู้หญิงที่อายุระหว่าง 15 - 44 ปี มักคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ และพบว่าร้อยละ 5 - 10 ของผู้หญิงที่ทำหมัน มักเกิดความเสียใจและไม่พอใจ อยากแก้หมันในภายหลัง
ขั้นตอนการต่อหมันนั้น จะต้องมีการตรวจร่างกายทั้งสามีและภรรยา เพื่อดูความพร้อมของร่างกายว่าสมบูรณ์แข็งแรงเพียงใด โดยเฉพาะในฝ่ายหญิงจะใช้การส่องกล้องทางช่องท้องเข้าไปดูสภาพของท่อนำไข่ จากนั้นอาจทำการต่อหมันทันทีหรือนัดหมายภายหลัง โดยวิธีการนั้นจะมีการวางยาสลบหรือใช้ยาชาฉีดเข้าไขสันหลังก่อนทำการต่อหมัน และเนื่องจากท่อนำไข่มีขนาดเล็กมาก จึงใช้วิธีการต่อหมันด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยการตัดท่อนำไข่ส่วนที่ตันออกแล้วเย็บต่อท่อดังกล่าวเข้าหากัน จากนั้นทำการฉีดสีเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อตรวจสอบว่าสีสามารถเดินทางไปยังท่อนำไข่ที่ต่อแล้วได้ดีเพียงใด หลังจากนั้นจึงต่ออีกข้างและทำการทดสอบเช่นกัน ก่อนจะเย็บปิดแผลเป็นขั้นตอนสุดท้าย การต่อหมันด้วยวิธีนี้ มีความแม่นยำสูงและอัตราการตั้งครรภ์ก็สูงกว่าวิธีอื่น อย่างไรก็ตาม อาจใช้การส่องกล้องทางช่องท้องช่วยในการต่อหมันได้อีกวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย แต่ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการต่อหมันด้วยกล้องจุลทรรศน์ สำหรับผู้ที่ได้รับการต่อหมันแล้วควรรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงทั้งสามีและภรรยา ทำจิตใจให้แจ่มใส ก็จะช่วยให้การเกิดการตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น ท่านที่สูญเสียบุตรจากเหตุการณ์สึนามิที่ทำหมันแล้วและต้องการมีบุตรอีก สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานภาควิชาสูติศาสตร์- นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โทร. 0 2419 4888, 0 2419 8999 ได้ในวัน เวลาราชการ
|
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|