ออกอากาศ : วันที่ 2 มีนาคม 2551 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
โรคคาวาซากิ |
บทคัดย่อ:
|
โรคคาวาซากิเป็นโรคที่เกิดกับเด็ก มีผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ จึงต้องรีบให้การรักษาโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน ศ.พญ.ดวงมณี เลาหประสิทธิพร ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ อธิบายว่า โรคคาวาซากิ พบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 1 2 ปี พบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง แต่ส่วนใหญ่จะพบในเพศชายมากกว่า โรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่พบว่ามีการอักเสบเกิดขึ้นหลายแห่งในร่างกาย ทำให้เกิดอาการแสดงต่าง ๆ พบว่าประมาณร้อยละ 25 ของผู้ป่วยเกิดการอักเสบของหลอดเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจร่วมด้วย หากให้การวินิจฉัยและรักษาได้ภายใน 10 วัน นับจากมีไข้ จะช่วยให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดลดลงเหลือประมาณร้อยละ 5 ซึ่งอาการของโรคนี้ คือ เด็กจะมีไข้สูงทุกคน โดยมากมักเป็นนานเกิน 5 วัน บางรายอาจนานกว่านี้ อาจมีผื่นขึ้นตามตัวและแขนขา ตาขาวจะแดง 2 ข้าง แต่ไม่มีขี้ตา ริมฝีปากแห้งแดงอาจแตกมีเลือดออก ลิ้นแดงเป็นตุ่ม ๆ คล้ายผิวสตรอเบอรี่ ฝ่ามือและฝ่าเท้าบวมแดง ต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอโต อาการทั้งหมดนี้จะเกิดภายในสัปดาห์แรก ในสัปดาห์ที่ 2 จะมีการลอกของผิวหนัง โดยเริ่มจากบริเวณปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า และอาจลามไปที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า อาการอื่น ๆ ที่อาจพบ ได้แก่ ข้ออักเสบโดยเฉพาะบริเวณนิ้วมือ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ท้องเสีย ซึ่งอาการดังกล่าวอาจหายได้เองแม้ไม่ได้รับการรักษา แต่ที่สำคัญคือ โรคนี้อาจทำให้เกิดการอักเสบของหัวใจและหลอดเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดหัวใจมีลักษณะโป่งพอง ตีบหรือแคบได้ ในรายที่หลอดเลือดตีบแคบมาก อาจเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจ ขาดเลือดเลี้ยงเหมือนที่พบในผู้ใหญ่ที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้
เนื่องจากการวินิจฉัยต้องอาศัยอาการเป็นหลักร่วมกับการตรวจเลือด ซึ่งอาการแสดงมักพบไม่พร้อมกัน จึงทำให้เกิดความยากในการวินิจฉัยหากไม่ได้นึกถึงโรคนี้ การรักษาในช่วงที่มีไข้ใน 10 วันแรก จะต้องตรวจหัวใจด้วยเครื่องอัลตราซาวน์ด เพื่อดูลักษณะหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ และให้ยาลดการอักเสบคือ ยาแอสไพรินขนาดสูงให้รับประทานอย่างต่อเนื่องประมาณ 1 2 สัปดาห์ และให้โปรตีนชนิดหนึ่งเข้าหลอดเลือดดำ ซึ่งจะมีราคาแพง พบว่าหลังให้ยาดังกล่าว ไข้มักจะลดลงภายใน 24 - 48 ชั่วโมง หลังจากไข้ลดจะต้องให้แอสไพรินขนาดต่ำวันละ 1 ครั้ง รับประทานต่อเนื่อง 6 8 สัปดาห์ เพื่อป้องกันเกร็ดเลือดรวมกันเป็นก้อน ซึ่งอาจไปซ้ำเติมให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือดที่ผิดปกติได้ หลังจากนั้นถ้าตรวจอัลตราซาวน์ดหัวใจซ้ำพบว่า หลอดเลือดหัวใจปกติก็สามารถหยุดยาได้ และจากการติดตามผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดผิดปกติหลัง 8 สัปดาห์นับตั้งแต่มีไข้ เมื่อ 1 ปีต่อมา 2 ใน 3 ของผู้ป่วยจะหายเป็นปกติ ที่เหลือ 1 ใน 3 ยังมีความผิดปกติอยู่ ต้องติดตามเป็นระยะ และรับประทานยาแอสไพรินเป็นประจำไปตลอด |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|