ออกอากาศ : วันที่ 30 ธันวาคม 2550 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
สำลักสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ |
บทคัดย่อ:
|
อันตรายจากการสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในทางเดินหายใจเป็นสิ่งใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้ปกครองจึงควรรู้วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างถูกต้อง รศ.พญ.กิติรัตน์ อังกานนท์ ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา อธิบายว่า ปัญหาสำลักสิ่งแปลกปลอมมักเกิดในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เด็กมักเอาสิ่งแปลกปลอมใส่เข้าไปในรูจมูกและปาก ประกอบกับฟันที่ยังขึ้นไม่ครบ ทำให้ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารชิ้นโต ๆ ได้ จึงอาจเกิดการสำลักอาหารระหว่างรับประทานหรือขณะวิ่งเล่น อันตรายจากสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ คือ อาจไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งในเด็กเล็กมีทางเดินหายใจขนาดเล็ก แม้ถูกอุดกั้นเพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นอันตรายจากการขาดอากาศหายใจถึงชีวิตได้ นอกจากนี้สิ่งแปลกปลอมบางชนิด เช่น ถ่านนาฬิกา ถ่านเครื่องคิดเลข เมื่อตกค้างในทางเดินหายใจจะเกิดการรั่วซึมของสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างเข้มข้นออกจากตัวถ่าน อาจทำให้เกิดการทะลุของหลอดลมหรือหลอดอาหาร มีการติดเชื้อเข้าสู่ช่องอก เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะมีอาการสำลัก ไอ หายใจเสียงดัง หายใจลำบาก บางครั้งจะไอรุนแรงจนเขียวหรืออาเจียน อาการเหล่านี้จะเป็นมากในช่วงหนึ่งหรือสองชั่วโมงแรกถ้าสิ่งแปลกปลอมมีขนาดใหญ่ เช่น เมล็ดละมุดหรือน้อยหน่า อาจติดอยู่บริเวณใต้กล่องเสียง ทำให้เกิดทางเดินหายใจอุดกั้นเฉียบพลัน ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตก่อนถึงมือแพทย์ หากสิ่งแปลกปลอมมีขนาดเล็ก หลุดผ่านกล่องเสียงลงไปในหลอดลมข้างใดข้างหนึ่งได้ อาการไอจะสงบลงชั่วคราว หลังจากนั้นจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น ปอดโป่งพอง หรือปอดอักเสบ บางครั้งมีอาการเหมือนหอบได้ ในเรื่องนี้ การป้องกันมีความสำคัญมากกว่าการรักษา เพราะเป็นภาวะที่อาจเกิดซ้ำๆ อีกได้ ไม่ควรปล่อยเด็กเล็กให้อยู่ตามลำพัง เด็กอาจหยิบจับสิ่งใด ๆ ที่ไม่ใช่อาหารเข้าปากได้ตลอดเวลา ผู้ปกครองควรสังเกตอาการ ถ้าเกิดอาการไอ หอบเหนื่อยเฉียบพลัน หายใจเสียงดังโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรมาปรึกษาแพทย์ |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|