ออกอากาศ : วันที่ 9 ธันวาคม 2550 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
เมื่อ เอดส์ เกิดมากับหนูน้อย |
บทคัดย่อ:
|
ปัจจุบันมีการใช้ยาต้านไวรัสป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก ทำให้อัตราการติดเชื้อของเด็กลดน้อยลง จากจำนวน 2,000 คนต่อปี เหลือเพียง 300 คนต่อปีเท่านั้น รศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ อธิบายว่า เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี ส่วนใหญ่จะติดเชื้อระหว่างคลอด แต่มีบางส่วนอาจติดตั้งแต่ในครรภ์ และหากกินนมแม่ก็อาจติดจากน้ำนมแม่ได้ ส่วนการติดเชื้อด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การได้รับเลือด มีโอกาสเกิดน้อยมาก ซึ่งแพทย์จะไม่แนะนำให้ทารกดื่มนมแม่จากแม่ที่ติดเชื้อ และการคลอดโดยการผ่าตัดทางหน้าท้องก่อนจะเจ็บครรภ์หรือมีน้ำเดิน จะช่วยลดอัตราการติดเชื้อในทารกลงไปได้อีก กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรยาต้านไวรัสสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อทั่วประเทศและให้นมผงแก่ทารกนาน 1 ปี อย่างเพียงพอทั่วประเทศ เพื่อลดการติดเชื้อในทารกให้ได้มากที่สุด ทำให้ประเทศไทยได้รับการยกย่องเป็นประเทศตัวอย่างที่มีการให้ระบบบริการเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพประกอบกับมียาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งองค์การเภสัชกรรมผลิตได้เอง จึงมีราคาถูก ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง สำหรับเด็กที่ติดเชื้อไปแล้ว ปัจจุบันมียาต้านไวรัสที่จะทำให้เด็กมีสุขภาพดีใกล้เคียงกับเด็กปกติ แต่ผู้ป่วยต้องกินยาต้านไวรัสไปตลอดชีวิต เพราะโรคนี้ยังไม่มีการรักษาที่หายขาด การกินยาอย่างสม่ำเสมอเคร่งครัด ทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่สุขภาพดีได้หากกินยาไม่สม่ำเสมอ ไม่ตรงเวลา อาจเกิดปัญหาเชื้อดื้อยาตามมา ทำให้ต้องใช้ยาสูตรใหม่ ซึ่งมักเป็นยาที่มีราคาแพงเพราะยังไม่สามารถผลิตได้เอง ปัจจุบันมียาดี ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงพัฒนาออกมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสมีชีวิตยืนยาวขึ้น แต่การใช้ยาใหม่ ๆ ในผู้ป่วยเด็กมักจะทำได้จำกัดกว่าผู้ใหญ่ เด็กที่ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตแบบเด็กปกติได้ เมื่อได้รับการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยซ้ำเติม กินอาหารที่สะอาด เพียงพอ ครบทุกหมู่ ระวังหลีกเลี่ยงอาหารหวาน และไม่ให้นอนหลับคาขวดนม เพราะมักเป็นสาเหตุทำให้ฟันผุอย่างแรง ให้เด็กดื่มน้ำต้มสุกเสมอ และไม่ควรเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องสัมผัส เช่น สุนัข แมว เพราะเด็กอาจติดเชื้อโรคได้ เด็กสามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้โรงเรียนทราบว่าเด็กป่วยเป็นโรคนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกหรือมีเลือดออก เด็กสามารถเล่นกีฬาได้แต่ต้องไม่หนักเกินไป สิ่งสำคัญคือ เด็กต้องกินยาอย่างเคร่งครัด ตรงเวลาตลอดชีวิต ดังนั้นผู้ปกครองควรเอาใจใส่และควรอธิบายให้เด็กฟังว่าต้องกินยาเพื่อสุขภาพที่ดีตลอดไป เพื่อเด็กจะได้ให้ความร่วมมือและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างคนทั่วไป โรคนี้มิใช่โรคที่น่ารังเกียจหรือน่ากลัว แต่เป็นโรคประจำตัวเรื้อรังที่ต้องการการดูแลรักษาระยะยาวเช่นเดียวกับผู้ป่วยอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจที่รักษาไม่หายขาดเช่นกัน แม้โรคนี้จะยังไม่มียารักษาให้หายขาด แต่กำลังใจจากครอบครัวจะเป็นเสมือนยาขนานเอกที่จะช่วยให้เด็กมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|