ออกอากาศ : วันที่ 9 กันยายน 2550 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
การส่องกล้องตรวจ หู คอ จมูก |
บทคัดย่อ:
|
การส่องกล้องตรวจหู คอ จมูกและไซนัส เป็นขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะในรายที่มีอาการเรื้อรัง เพราะแพทย์จะได้วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องจนหายจากโรคที่เป็นอยู่ได้ ผศ.นพ. ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา อธิบายว่า การส่องกล้องตรวจหู คอ จมูก และไซนัส มีข้อดีคือ สามารถวินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง และช่วยในการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา และเอาวัสดุแปลกปลอมออกได้แม่นยำขึ้น สามารถดูภาพบนจอทีวีและบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานทางการแพทย์ได้ด้วย การให้ยาชาเฉพาะที่บริเวณจมูกและคอนั้น ผู้ป่วยต้องแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และยาที่รับประทานเป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหาร โดยแพทย์จะใช้น้ำยาที่ทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวมผสมกับยาชา พ่นเข้าไปในโพรงจมูกทั้งสองข้าง นั่งรอประมาณ 5 นาที เยื่อบุจมูกจะยุบบวม และสามารถทำการตรวจภายในโพรงจมูกได้ หากผู้ป่วยมีเยื่อบุจมูกบวมมาก แพทย์จะใช้สำลีแผ่นบางตัดเป็นชิ้นยาวหรือใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำยาที่ทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวมเลือดผสมกับยาชาแล้วใส่ในโพรงจมูก ยาชาจะทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บระหว่างที่ส่องกล้อง ทำให้สามารถตรวจโพรงจมูกได้ทุกบริเวณ ในรายที่ต้องตรวจคอ และกล่องเสียง อาจตรวจโดยไม่ต้องใช้ยาชา ขณะตรวจด้วยกล้อง ผู้ป่วยไม่ควรเคลื่อนไหวศีรษะ เพราะจะทำให้กล้องกระทบกับผนังหูชั้นนอก โพรงจมูกและคอ ระหว่างการส่องอาจมีอาการเจ็บ คัน หรือแสบหู คอ จมูก และอาจจามได้เล็กน้อย หลังจากส่องกล้องแล้ว ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ ในรายที่ยาชาไหลลงคอทำให้มีอาการชาที่คอ อาจรู้สึกคล้ายมีอะไรติดในลำคอหรือคล้ายหายใจไม่ออก อาการนี้จะหายไปภายในครึ่งชั่วโมง ผู้ป่วยไม่ควรรับประทานน้ำหรืออาหารเป็นระยะเวลาครึ่งชั่วโมงหลังการส่องกล้อง เพื่อป้องกันการสำลักลงหลอดลม หลังจากนั้นถ้าสามารถดื่มน้ำได้เป็นปกติก็เริ่มรับประทานอาหารได้ |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|