ออกอากาศ : วันที่ 5 สิงหาคม 2550 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
สารพัดเรื่องปวดหัว |
บทคัดย่อ:
|
อาการปวดหัวเป็นอาการที่พบได้บ่อยๆ รับประทานยาแก้ปวด อาการก็อาจจะหายไป แต่บางครั้งอาการปวดหัวอาจเป็นอาการร่วมของโรคอื่น ๆ ได้ ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ อธิบายว่า อาการปวดหัวที่พบได้ทั่วๆไป คือปวดตึงท้ายทอยเวลาเครียด หลังการทำงานหนัก ก็เป็นการปวดหัวธรรมดาๆ แต่ถ้าเป็นการปวดหัวซึ่งเป็นอาการร่วมของโรคอื่น ๆ นั้นเรามีวิธีสังเกตได้ โดยสังเกตว่าปวดหัวมานาน แล้วหรือยังและปวดหัวอย่างไร อย่างแรกคือดูว่าปวดหัวมานานแล้วหรือยัง เช่น ปวดระยะสั้น และปวดรุนแรง อาจเป็นอาการของโรคหลอดเลือดในสมอง หรือเลือดออกในสมอง โดยเฉพาะถ้าคอตึงแข็งหรืออาเจียน อาจจะเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งมักมีไข้ร่วมด้วย หรือโรคเกี่ยวกับตา ซึ่งมักปวดในกระบอกตา หรือตามัวอื่น ๆ เช่น ความดันสูงมากเฉียบพลัน ปวด สม่ำเสมอเหมือนเดิม และปวดนาน มักจะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับปวด จากความตึงเครียด ปวดไมเกรน ลักษณะของอาการปวดหัวที่ต้องสังเกต อีกอย่างหนึ่ง คือปวดอย่างไรและมีอาการอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ปวด หน้าผาก มีน้ำมูก อาจจะเป็นการปวดจากไซนัสได้ ปวดแปลบ ๆ เหมือนไฟช็อต ที่หน้า แก้ม โดยเฉพาะเวลาเคี้ยวอาจจะเป็นอาการของปลายประสาทอักเสบ ปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามัวมากขึ้น หรือเห็นภาพซ้อน เดินเซ อ่อนแรง มีอาการชา น้ำหนักลด รับประทานอาหารไม่ได้ อาจจะเป็นโรคมะเร็งสมอง ปวดหัวตุบ ๆ ข้างเดียวหรือสองข้าง ก่อนปวดมีอาการเห็นแสงแปลก ๆ คลื่นไส้ เป็นอาการปวดไมเกรน ปวดทันทีที่ท้ายทอย และมีอาการ เวียนหัว อาเจียน และอ่อนแรงทันที อาจเป็นอาการของหลอดเลือดสมองแตกได้ ปวดหัวและปากเบี้ยวตาปิดไม่สนิท อ่อนแรง หรือชาครึ่งซีกอาจเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ปวดมากที่ขมับ ปวดเมื่อยทั้งตัว ในคนอายุมาก อาจเป็นอาการของหลอดเลือดสมองอักเสบ หากมีอาการปวดหัวดังกล่าว ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาโรคและรักษาเสียแต่เนิ่น ๆ |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|