ออกอากาศ : วันที่ 24 มิถุนายน 2550 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
โอเมก้า-3 ในปลาให้คุณค่าสารอาหารจริงหรือ |
บทคัดย่อ:
|
หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า โอเมก้า-3 กันมาบ้างแล้ว ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายและมีอยู่ในอาหารประเภทใดบ้างผศ.พญ.นฤมล เด่นทรัพย์สุนทร ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ อธิบายว่า Omega 3 fatty acids คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง พบมากในปลาทะเลน้ำลึก อาทิ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาแมคคอเรล กรด ไขมันโอเมก้า-3 เป็นไขมันจำเป็นที่ต้องได้รับจากอาหาร เนื่องจากร่างกาย สร้างเองไม่ได้ กรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สำคัญมี 2 ชนิด ได้แก่ EPA (EICOSAPENTAENOICACID) และDHA (DOCOSAHEXEANOIC ACID) ความสำคัญของกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิด DHA ในเด็กมีความสำคัญต่อการเติบโตของสมองและดวงตาของเด็กทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนก่อนคลอด เด็กที่มี DHA ต่ำจะมีปัญหาด้านพฤติกรรมอารมณ์ การนอนและการเรียนรู้ส่วนในผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุนั้น จะช่วยลดระดับความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้ ช่วยลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ยากขึ้น และยังช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 นอกจากพบมากในปลาทะเลน้ำลึกดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปลาในอ่าวไทยที่มีปริมาณโอเมก้า-3 สูง ได้แก่ ปลาทู ส่วนปลาน้ำจืดก็ ได้แก่ ปลาช่อน ปลานวลจันทร์ และยังพบได้ในธัญพืช และเมล็ดพืชบางชนิด การที่ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมก้า-3 น้อยไป อาจมีปัญหาเกี่ยวกับลิ่มเลือดแข็งตัว ปวดท้องน้อย เวลามีประจำเดือน และข้ออักเสบ เราจึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้าอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอ |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|