ออกอากาศ : วันที่ 26 มิถุนายน 2548 เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 |
เรื่อง:
|
แมงดาทะเล...กินแล้วอาจตายได้ |
บทคัดย่อ:
|
แมงดาทะเลในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ แมงดาถ้วย และแมงดาจาน การบริโภค แมงดาทะเลให้ปลอดภัย จึงต้องรู้จักชนิดและความแตกต่างของแมงดาทั้ง 2 ชนิด ผศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม อธิบายว่า ความแตกต่างระหว่างแมงดาถ้วยและแมงดาจานที่สังเกตได้ คือขนาดตัว และลักษณะหาง แมงดาจานจะมีหน้าตัด หางเป็นรูปสามเหลี่ยม สันหางมีหนามคมและมีขนาดใหญ่ส่วนแมงดาถ้วย ซึ่งเป็นชนิดที่มีพิษต่อร่างกายจะมีหางกลม มน สันหางเรียบ ชาวประมงส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อที่ผิด คิดว่าแมงดาถ้วยที่ไม่มีลักษณะของเหรา คือตัวมีสีแดงและมีขน เป็นชนิดที่ปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วลักษณะภายนอกของแมงดาถ้วยไม่ว่าจะเป็นเหราหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่สามารถ บอกได้ว่ามันมีพิษสะสมอยู่หรือไม่ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแมงดาถ้วยทุกชนิด ลักษณะพิษของแมงดาทะเลจะคล้ายคลึงกับพิษอัมพาตที่เป็นพิษทางระบบประสาท โดยจะเกิดอาการชาตามปลายนิ้วมือ แขน ขา ทำให้เคลื่อนไหวลำบากเหมือนคนเป็นอัมพาต ผู้ป่วยอาจมีอาการอาเจียน ชักกระตุก และเสียชีวิตในที่สุด ปัจจุบันยังไม่มียารักษาพิษของแมงดาทะเล แพทย์จึงต้องรักษาตามอาการแบบประคับประคอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยหายใจอย่างถูกต้องและทันท่วงที เพราะคนไข้ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตเนื่องจากกล้ามเนื้อหายใจหยุดทำงานข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันพิษจากแมงดาทะเล คือ หลีกเลี่ยงการบริโภคไข่แมงดา ไม่ว่าจะมีลักษณะเหราหรือไม่ก็ตาม และเมื่อเกิดอาการพิษให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล หากผู้ปฐมพยาบาลมีความรู้เรื่องการเป่าปากช่วยชีวิต ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตรอดมากขึ้น |
|
กลับสู่หน้ารายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช
|