พระพี่นาง ทรงเคลื่อนไหวพระเพลา (ขา) ขวาได้มากขึ้น แถลงการณ์ฉบับที่ 5

พระพี่นาง ทรงเคลื่อนไหวพระเพลา (ขา) ขวาได้มากขึ้น แถลงการณ์ฉบับที่ 5

“พระพี่นาง” เปลี่ยนท่าประทับนั่ง 

สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 5 ความว่า วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเคลื่อนไหวพระเพลา (ขา) ขวาได้มากขึ้น คณะแพทย์ฯ ได้ขอพระราชทานให้ทรงเปลี่ยนพระอิริยาบถในท่าประทับ (นั่ง) บนพระแท่น (เตียง) บางช่วงเวลา ความดันพระโลหิตสูงขึ้นบ้าง คณะแพทย์ฯได้ถวายพระโอสถรักษาความดันพระโลหิตสูงด้วย รวมทั้งถวายการรักษาทางกายภาพบำบัด และเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

เทิด “พระพี่นาง” ทรงห่วงการศึกษา

ขณะที่ น.ส.เฟื่องฟ้า ประดิษพจน์ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งนำคณะนักเรียนสตรีวิทยา มาลงนามถวายพระพร พร้อมกล่าวว่า สมเด็จย่าทรงเคยศึกษาที่โรงเรียนสตรีวิทยา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เคยเสด็จมาทรงเปิดพิพิธภัณฑ์สมเด็จย่า ซึ่งตั้งอยู่ในโรงเรียนสตรีวิทยา พระองค์เคยรับสั่งกับคณะครูอาจารย์ว่า ให้ทุกคนใส่ใจในเรื่องของการศึกษา เพราะเด็กเปรียบเสมือนอนาคตของชาติ ทั้งที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุนการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยามาต่อเนื่อง เมื่อทราบว่าพระองค์ทรงพระประชวร จึงอยากนำนักเรียนมาร่วมถวายพระพร เพื่อให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว 

 ทรงห่วง ปชช.มากกว่าพระสุขภาพ 

เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนคริทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)  จำนวน  40  คน  นำโดย  นพ.ยุทธ  โพธารามิก รองประธานมูลนิธิ  พอ.สว.  นพ.ประมุข  จันทวิมล  เลขาธิการมูลนิธิ พอ.สว.นำแจกันดอกไม้จำนวน 2 แจกันมาทูลเกล้าฯ  ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ จากนั้น นพ.ประมุข กล่าวว่า เข้าร่วมถวายงานในนามมูลนิธิ พอ.สว.มาตั้งแต่ปี 2518 พระองค์ท่านทรงดำเนินตามรอยเบื้องยุคลบาทของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีหน่วยแพทย์ในจังหวัดต่างๆทั้งสิ้น 51 จังหวัดอยู่ในถิ่นทุรกันดารทั้งสิ้น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เสด็จ เยี่ยมกิจกรรมต่างๆของมูลนิธิ เพราะพระองค์ทรงเป็นห่วงประชาชนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารที่การเดินทางไปโดย ความยากลำบาก ไม่สามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ ส่วนมากจะอยู่ในภาคเหนือ อีสาน ทรงไปเยี่ยมราษฎร ผู้สูงอายุและเด็ก  เพราะพระองค์ทรงห่วงสุขภาพของราษฎรโดยไม่ได้คำนึงถึงพระวรกายของพระองค์เอง แม้ว่าเส้นทางที่เสด็จไปจะลำบากมาก แต่พระองค์ไม่ เคยย่อท้อต่อความยากลำบาก พระองค์เคยตรัสว่า ได้นัดประชาชนไว้แล้ว จะต้องไปให้ได้ ครั้งสุดท้ายเมื่อไม่นานมานี้ก่อนเข้ารับถวายการรักษา เสด็จที่ จ.ยะลา และตั้งพระทัยว่าจะเสด็จ  จ.ปัตตานี  และนราธิวาส  สิ่งเหล่านี้ทำให้เหล่าสมาชิก พอ.สว.รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก แม้ว่า เวลานี้พระองค์ทรงประชวร เหล่าอาสาสมัคร พอ.สว.รู้สึกห่วงใยและต่างรำลึกถึงขอให้พระองค์ทรงหายประชวรโดยเร็ว