“ในหลวง” พระกล้ามเนื้อดีขึ้นจนทรงยืนได้แล้ว แถลงการณ์ฉบับที่ 5

“ในหลวง” พระกล้ามเนื้อดีขึ้นจนทรงยืนได้แล้ว แถลงการณ์ฉบับที่ 5

พระอาการทั่วไปดีขึ้นมากแล้ว พระวรกายด้านขวามีแรงมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะพระกล้ามเนื้อ ที่พระเพลา (ขา) มีแรงมากขึ้น จนทรงยืนโดยใช้เครื่องพยุง

 

เมื่อ วันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น.สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 5 ความว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า พระอาการทั่วไปดี พระวรกายด้านขวามีแรงมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะพระกล้ามเนื้อที่พระเพลา (ขา) มีแรงมากขึ้นจนทรงยืนโดยใช้เครื่องช่วยพยุงได้

อนึ่ง คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาฯ ได้รายงานว่าติ่งเนื้อเยื่อขนาดเล็กที่ผนังของพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) ซึ่งตรวจพบเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พุทธศักราช 2542 ตามที่ได้แถลงการณ์ให้ทราบในครั้งนั้นแล้ว มาบัดนี้ทรงมีพระอาการเจ็บบริเวณเหนือบั้นพระองค์ด้านขวา และทรงมีพระปรอท (ไข้) จึงได้ถวายการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ช่องพระนาภี พบว่าติ่งเนื้อเยื่อมีการอักเสบจึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ ปรากฏว่าพระอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

นับเป็นวันที่ 5 แล้วที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังประทับรักษาพระวรกาย หลังจากประชวรเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ด้วยพระอาการพระวรกายด้านขวาอ่อนแรง และเสด็จฯเข้ารักษาพระองค์ที่ รพ.ศิริราช ซึ่งผลการตรวจพระสมอง พบผิวพระสมองด้านซ้ายขาดเลือดเล็กน้อย แต่จนถึงขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จนทรงยืนโดยใช้เครื่องพยุงได้แล้ว ซึ่งคณะแพทย์ได้ถวายการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด อยู่ที่ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช โดยมีประชาชนจากทุกหมู่เหล่าทั่วสารทิศหลั่งไหลมาร่วมลงนามถวายพระพรกันไม่ขาดสาย รวมทั้งเฝ้าติดตามและรอฟังพระอาการอยู่ที่ รพ.ศิริราชด้วยความห่วงใยและดวงใจที่จงรักภักดี

ด้าน ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช เผยว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่เดินทางมาที่ รพ.ศิริราช เพื่อถวายพระพรในหลวง ซึ่งประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือด้วยการช่วยกันดูแลรักษาต้นไม้ในโรงพยาบาลศิริราชอย่างดี ไม่ให้เกิดความเสียหาย ประชาชนทั้งหมดต่างมาด้วยใจที่ภักดี เหตุการณ์ ทุกอย่างในศิริราชก็สงบเรียบร้อย ขณะนี้ในหลวงทรงมีพระอาการที่ดีขึ้น พวกเราทุกคนก็รู้สึกสบายใจ

ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้ ปิดการลงนามในเวลา 20.00 น. ปรากฏว่า ในวันที่ 17 ต.ค. มีประชาชนมาลงนามถวายพระพรจำนวน 51,748 คน รวมยอดการลงนามถวายพระพร 4 วัน มีประชาชนจำนวนทั้งสิ้นถึง 147,000 คน

 

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด