นักศึกษาวิทยาเขตศิริราชร่วมออกรับบริจาคครั้งใหญ่ เนื่องใน “วันมหิดล”

นักศึกษาวิทยาเขตศิริราชร่วมออกรับบริจาคครั้งใหญ่ เนื่องใน “วันมหิดล”

วันนี้  (21 ก.ย. 2550) เวลา 07.00 น. ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และเหล่าคณาจารย์ศิริราชร่วมปล่อยขบวนนักศึกษาวิทยาเขตศิริราชและมอบธงประจำสาย ในการออกรับบริจาคใหญ่เนื่องในวันมหิดล 24 กันยายน โดยนำรายได้สมทบทุนช่วยผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช ซึ่งเหล่านักศึกษาวิทยาเขตศิริราชได้พร้อมใจร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณต่อ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “จะบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและจงเห็นประโยชน์ของคนไข้เป็นที่หนึ่ง” ดังส่วนหนึ่งของพระราชดำรัสของพระองค์  

การออกรับบริจาคเงินพร้อมมอบธงและสติ๊กเกอร์ที่ระลึกของนักศึกษาวิทยาเขตศิริราช  ถือเป็นประเพณีที่ชาวศิริราชปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนานโดยปีนี้เข้าสู่ปีที่ 47 แล้ว โดยเหล่านักศึกษาจะเริ่มออกรับบริจาคตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงวันมหิดล 24 กันยายน ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง โดยแบ่งเป็น 26 สาย กรุงเทพฯ 14 สาย ได้แก่ ยานนาวา ศรีอยุธยา เยาวราช บางกะปิ สีลม  พหลโยธิน บางลำพู จรัญสนิทวงศ์ ตลาดพลู ศรีย่าน หัวลำโพง ลาดหญ้า  สุขุมวิท  และรอบๆ ศิริราช ต่างจังหวัด 12  สาย ได้แก่ เพชรบุรี ราชบุรี ชลบุรี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี  และโดยเฉพาะในวันที่ 21 กันยายนนี้ นักศึกษาวิทยาเขตศิริราชจะออกรับบริจาคครั้งใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีทั้งหมด 16 สาย อาทิ บางลำพู เยาวราช สุขุมวิท บางกะปิ นนทบุรี  กาญจนบุรี สมุทรสาคร และชลบุรี  ทั้งนี้จะมีสายพิเศษจากศิลปินค่ายต่างๆ มาช่วยกันออกรับบริจาคที่บริเวณห้างมาบุญครอง มาลีนนท์ทาวเวอร์ และที่เดอะมอลล์  บางกะปิในวันนั้นด้วย  ซึ่งผู้บริจาค 500 บาทจะได้รับธงพร้อมเสา 20 บาทรับธงแขวน น้อยกว่า 20 บาทรับสติ๊กเกอร์เป็นที่ระลึกครับ

“ถือเป็นการ “ให้” ความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันให้มีโอกาสในการรักษาเท่าเทียมกับผู้อื่นในสังคม  ทั้งให้สิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งทั้งหมดนี้ ผมขอขอบคุณในความมีน้ำใจของทุกท่านที่ร่วมเป็นผู้  “ให้” ตามรอยพระบาทช่วยผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช และยังถือเป็นหนึ่งในความดีที่กระทำถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในปีมหามงคล 80  พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย”  ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร กล่าว