เเถลงข่าวงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 31”

        กรมประมง  ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล   และศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค  จัดงาน  “วันประมงน้อมเกล้าฯ  ครั้งที่ 31” วันที่ 28 มิถุนายน –  7 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. เนรมิตพื้นที่กว่า 7,000  ตรม. ทั่วบริเวณชั้น จี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์   เป็นจักรวรรดิแห่งสัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่ “อะควาติก เอ็มไพร์”  จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 100 สายพันธุ์  อลังการกับการประกวดปลาสวยงามมากถึง 8 ชนิด 67 ประเภท กว่า 2,000 ตู้, ชมสุดยอดราชา-ราชินีแห่งสายพันธุ์,  มหัศจรรย์กับสัตว์น้ำสุดแปลกจากแดนใต้  “ปลากะแมะ”  ปลาแปลกรูปร่างประหลาดแห่งป่าพรุโต๊ะแดง  “กบใบไม้ฮาลาบาลา” นักพลางตัวชั้นยอดจากแดนใต้  และ “แม่หอบ” สัตว์โบราณดำรงเผ่าพันธุ์กว่า 16 ล้านปี ที่เนื้อมีสรรพคุณทางยาสามารถรักษาหอบหืดได้,  สุดทึ่งกับสัตว์น้ำต่างถิ่น “เต่ายักษ์อัลลิเกเตอร์”  เต่าน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีแรงกัดมหาศาลเป็นอันดับ 3 ของโลก  พร้อมภาคภูมิใจในความเป็นไทยกับ “ปลากัดไทย” สัตว์น้ำประจำชาติไทย และสนุกล้ำกับ MAGIC FLOOR  เทคโนโลยีสุดล้ำ  Interactive Floor Projection   ที่ทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับฝูงปลาเสมือนเดินอยู่บนผืนน้ำ ตลอดจนนิทรรศการความรู้ทางการแพทย์  “กระดูกและข้อ”  จากคุณหมอโรงพยาบาลศิริราช 

        นายอรุณชัย  พุทธเจริญ  รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า  “งานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 31 เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกรมประมง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ทูลเกล้าถวายฯ สมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ ตลอดจนเป็นการส่งเสริม อนุรักษ์ และเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์น้ำและปลาสวยงาม และพรรณไม้น้ำชนิดต่างๆ ให้กับประชาชน เกษตรกร และเป็นการยกระดับการจัดงานก้าวสู่สากล 

        โดยในปีนี้ คณะกรรมการจัดงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงโปรดให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จแทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 31 ในวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2562 เวลา 17.00 น. 

        สำหรับกรมประมง มีการจัดแสดงนิทรรศการมีชีวิตในธีม Aquatic Empire จักรวรรดิสัตว์น้ำอันยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองปีมหามงคลของคนไทย ในบรรยากาศภูผา ธารา สู่มหานที ผู้เข้าชมงานตื่นตาตื่นใจกับลวดลาย สีสันสวยงามของเหล่าฝูงสัตว์น้ำที่ได้รับสมญานามว่าเป็น ราชา - ราชินี แห่งสายพันธุ์  อาทิ ปลามังกร ราชาปลาสวยงาม / ปลาปอมปาดัวร์ ราชินีปลาสวยงาม ปลาแมนดาริน มังกรน้อยแห่งท้องทะเลความงามลำดับต้นๆของโลก ฯลฯ  สัตว์น้ำแห่งจักรวรรดิ ปลากัดเงิน ปลากัดทอง ปลาสีนาก ฯลฯ สัตว์น้ำจากภูผา ธารา สู่มหานที อาทิ ปลาค้อสมเด็จพระเทพ  ปลากระโห้  ปลาสิงโต ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสวยสายโหดแห่งท้องทะเล ฯลฯ “ปลากัดไทย” สัตว์น้ำประจำชาติ ได้แก่ ปลากัดสายพันธุ์ดั้งเดิม (Betta Splendens) และ ความงามของปลากัดลายธงชาติ ปลากัดสีทองหายาก 10 สายพันธุ์ ฯลฯ สัตว์น้ำสุดแปลกจากแดนใต้ อาทิ ปลากะแมะ  กบใบไม้ฮาลาบาลา  แม่หอบ  หอยไฟ  และแฟชั่นวีคตัวแม่ ปูแต่งตัว หอยเม่นแต่งตัว หอยแต่งตัว ฯลฯ และบรรดาเอเลี่ยนสปีชีส์ สัตว์น้ำต่างถิ่น อาทิ เต่าแฮมมิลตัน ปลาดุกหนามเออร์วิน และ เต่าอัลลิเกเตอร์ ซึ่งเป็นอันตราย มีความดุร้าย ไม่ควรมีไว้ในครอบครอง 

        ด้านการประกวดปลาสวยงามชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ปีนี้จะมีการจัดประกวดมากถึง 8 ชนิด 67 ประเภท ได้แก่ ปลากัด  ปลาหางนกยูง  ปลาตะพัด (ปลาเอเชียอโรวาน่า) ปลาเงินปลาทอง  ปลาหมอสี  ปลาหมอสีครอสบรีด ปลาปอมปาดัวร์ ปลาตะพัด และปลากัดออนไลน์ โดยไฮไลท์ เป็นการประกวด “ปลากัดสีและลายธงชาติ”  และ “ปลากัดไทยสัตว์น้ำประจำชาติ Betta  splendens” คู่ไปกับ การประกวดวาดภาพ “ปลากัดไทย (Siamese Fighting Fish) สัตว์น้ำประจำชาติ ของนักเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น

        และเพื่อร่วมกันภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตลอด 10 วัน ของการจัดงาน ยังมีกิจกรรมไฮไลท์สร้างความรู้คู่ความสนุกกับ “ปลากัด” มากมายบนเวทีกลาง อาทิ “การสอนเพาะปลากัด/ปลากัดลายธงชาติ” “Talk : กว่าจะเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ” “ปลากัดไทยเอกลักษณ์ของชาติ ในไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ชาติไทย”  “การเพาะพันธุ์การเลี้ยงปลากัดยักษ์”  “การสอนถ่ายภาพปลากัด และการประมูลภาพถ่ายปลากัด”  “ศิลปะโมเดลเรซินปลากัด”  “การสร้างสรรค์กระดาษจากปลากัด”  “การสร้าง logo เพื่อส่งเสริมการขายปลากัด” และเสริมพิเศษ “การสอนเพาะปลาหางนกยูง พร้อมแจกปลาหางนกยูง 100 คู่” ฯลฯ 

        ในส่วนของความรู้ทางวิชาการในปีนี้ ได้เตรียมนิทรรศการหมุนเวียนทุกวัน อาทิ เรื่อง“โรคสัตว์น้ำสวยงามที่น่ารู้” “การตรวจฟอร์มาลินในสินค้าสัตว์น้ำ” ”ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไทยร่วมสมัยอดีตสู่ปัจจุบัน” ฯลฯ และกิจกรรมความสนุก อาทิ การปล่อยปลาออนไลน์ และโชว์สุดระทึก กับ “การจับจระเข้ด้วยมือเปล่า” และการร่วมทำบุญกับผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้แท้ในราคาพิเศษ

        ในส่วนของศิริราช รองศาสตราจารย์ นายแพทย์นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมจัดงานวันประมงน้อมเกล้า ฯ  ดังเช่นทุกปี 

        ไฮไลท์ปีนี้ คือ “โรคกระดูกและข้อ”  นำเสนอข้อมูลความรู้ทางการแพทย์ที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านโรคกระดูกและข้อ เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางการป้องกัน ดูแล และรักษาร่างกายให้แข็งแรง  ปลอดภัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนชาวไทย ประกอบด้วย 

        1. นิทรรศการทางการแพทย์  (ตลอดการจัดงาน) 

        นิทรรศการโรคกระดูกและข้อ ได้แก่

        -  ธนาคารกระดูก (Bone Bank) คือ สถานที่เก็บกระดูกและเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่น เส้นเอ็น เยื่อหุ้มรก ที่ได้รับบริจาคจากผู้ที่มีชีวิตอยู่หรือจากผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปทดแทนกระดูกหรือเนื้อเยื่อของผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพและต้องผ่าตัดออก ปัจจุบันได้มีการพัฒนากระบวนการ ตลอดจนสร้างเครือข่ายการรับบริจาคไปทั่วประเทศ ภายในงานจะนำกระดูกที่นำไปแปรรูปมาจัดแสดงด้วย  

        -  โรคขาโก่งในเด็ก กับความเชื่อผิด ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น เชื่อว่าลูกขาโก่งเพราะใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ห้ามอุ้มลูกเข้าเอว ต้องดัดขาให้ลูกไม่งั้นลูกจะโตมาแล้วขาโก่ง 

        -  ใช้สมาร์ทโฟนอย่างไรให้ห่างไกลนิ้วล็อค 

        -  โรคออฟฟิศซินโดรม

        -  โรคข้อเข่าเสื่อม

        -  พฤติกรรมทำลายกระดูก

        - การจัดแสดงโมเดลอวัยวะดอง (Specimen) อาทิ เด็กดองที่เป็นไฮไลท์ของบูธในทุก ๆ ปี ชิ้นส่วนความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระดูก เช่น โรคมะเร็งกระดูก กระดูกพรุน เป็นต้น

        2. การให้บริการทางการแพทย์  

        - การให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00-12.00 น.และ 6 กรกฎาคม 2562 เวลา 13.00 – 15.00 น. (รับจำนวนจำกัดวันละ 30 คิว)  โดยเน้นการตรวจให้คำปรึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคกระดูกและข้อ  

        ทั้งนี้ กระดูกเป็นอวัยวะที่สำคัญของชีวิตมนุษย์เราทุกคน เพราะนอกจากจะเป็นโครงสร้างที่สำคัญในการกำหนดรูปร่างลักษณะของมนุษย์  ยังมีส่วนเสริมสร้างความแข็งแรง  และป้องกันอันตรายให้แก่อวัยวะสำคัญภายในร่างกาย  พร้อมทั้งยังเป็นแหล่งสะสมแคลเซียม และเกลือแร่ที่จำเป็นอื่น ๆ และเป็นแหล่งสำคัญในการสร้างเม็ดเลือด 

        กระดูกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและตลอดชีวิต  เมื่อเซลล์เก่าตายไป  จะมีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ตลอดเวลา  กระดูกและข้อเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ  โดยเฉพาะข้อเข่าและข้อสะโพกอาจเกิด   โรคข้อเสื่อมได้ง่าย  เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกเริ่มจะสูญเสียแคลเซียมบางส่วนทำให้กระดูกพรุนและอ่อนแอลง  

        - การเปิดรับบริจาคกระดูกและเนื้อเยื่อ ในวันที่ 28 มิถุนายน และ  4 กรกฎาคม 2562 ตลอดทั้งวัน

        - การให้บริการให้คำปรึกษาและแนะนำการฟื้นฟูร่างกายจากนักกายภาพบำบัด ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 เวลา 11.00-14.00 น.

        - การให้บริการให้คำปรึกษาและแนะนำการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา พร้อมทั้งให้บริการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย โดยนักเวชศาสตร์การกีฬา ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 เวลา 12.00-15.00 น.

        3. ตอบคำถามยอดฮิตด้านกระดูกและข้อผ่านคุณหมอโฮโลแกรม เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน จึงได้นำนวัตกรรมการให้ข้อมูลผ่านข้อคำถามที่เป็นประเด็นยอดฮิตในสังคม มาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด และนำเสนอผ่านทางสื่อโฮโลแกรม ที่เป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ พาคุณหมอมาใกล้ชิดกับทุกท่านมากยิ่งขึ้น

        4. การบริการให้คำปรึกษาปัญหา และคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยา และการจำหน่ายยาตำรับศิริราช  โดยฝ่ายเภสัชกรรม ซึ่งปีนี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 29 - 30 มิถุนายน และ วันที่ 4, 6 และ 7 กรกฎาคม 2562 พบกับยาที่โดดเด่นในโลกโซเชียลที่ประชาชนให้ความสนใจ รวมถึงการให้คำปรึกษาเรื่องยา 

        5. การจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ศิริราช ในปีนี้จะเป็นการนำเสนอสิ่งจัดแสดงที่สอดคล้องกับธีมงาน โดยจะนำสิ่งจัดแสดงในเรื่องกระดูกและข้อ ออกมาให้ประชาชนได้เยี่ยมชม และมาศึกษาหาความรู้ได้

        6. การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ร้านศิริราชฉลาดคิด จะมีการจำหน่ายพิพิธภัณฑ์นวัตกรรมในการดูแลสุขภาพ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนทุกปี เช่น ชุดเครื่องนอนกันไรฝุ่น แว่นตากรองแสง  เป็นต้น

        7. การเสวนาทางการแพทย์ เรื่อง “วิ่ง ประโยชน์ทุกเพศ ทุกวัย” ในวันที่ 29 มิถุนายน 2562  เวลา  13.00-15.00 น. ณ เวทีกลาง โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์กีรติ เจริญชลวานิช  ศัลยแพทยผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ เสวนาร่วมกับ คุณหนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา คุณณรงค์  เทียมเมฆ (ผู้ทรงคุณวุฒิแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) คุณแซม และคุณแอ้ม จากเพจ Sam’s Story จากผู้ป่วยสู่เส้นทางนักวิ่งมืออาชีพ และคุณทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ ร่วมดำเนินรายการ 

        ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ศิริราช ตั้งใจคัดเลือกเพื่อนำมาให้ประชาชนทุก ๆ คนที่เข้ามาร่วมงาน ได้รับทั้งความรู้ ความเพลิดเพลิน และตื่นตาตื่นใจกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ทางด้านการแพทย์ เพื่อจะได้นำกลับไปป้องกัน ดูแลทั้งตนเอง และคนที่คุณรัก  จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงานนี้กัน   โดยรายได้ทั้งหมดในงานจะนำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง 

        นายอดิศักดิ์   บางโม  ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกิจกรรมการตลาด  ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค   กล่าวถึงความร่วมมือการจัดงานครั้งนี้ว่า  “งานประมงน้อมเกล้าฯ เป็นงานใหญ่ประจำปีที่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปต่างเฝ้ารอชมความงดงามของสัตว์น้ำหลากสายพันธุ์  เพราะเป็นงานประกวดปลาสวยงามและแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่  โดยทางศูนย์การค้าได้ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท  เนรมิตพื้นที่จัดงานทั้งหมดกว่า 7,000 ตารางเมตร บริเวณ ชั้น จี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์  ให้เป็นอาณาจักรสัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้ธีม “อควาติก เอ็มไพร์” พร้อมนำเทคโนโลยี  Interactive Floor Projection  ที่เนรมิตความเสมือนจริง ให้ทุกคนเดินอยู่บนผืนน้ำท่ามกลางฝูงปลาสวยงามที่แหวกว่ายไปมา  เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สร้างสีสันและแปลกใหม่ ให้ผู้เข้าชมได้สนุกกับงานนี้มากยิ่งขึ้น ที่บริเวณทางเชื่อมโซนกลาง ชั้น จี  พร้อมกันนี้ได้จัดพื้นที่จอดรถทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคารไว้รองรับไว้ 9,000 คัน  คาดว่ามีคนเข้าชมงานเฉลี่ยวันละ 30,000 คน”

        ร่วมสัมผัสความยิ่งใหญ่ตระการตา พร้อมความแปลกมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องน้ำหลากสีสันและสุดยอดปลาสวยงามจากการประกวด ตลอดจนความรู้และบริการเรื่องสุขภาพ ในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ” ครั้งที่ 31 ได้ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน - 7 กรกฎาคม 2561 เวลา 10.00 น – 20.00 น. ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ค่าบัตรผ่านประตูเพียง 20 บาท รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้มูลนิธิจุฬา