หญิงรักหญิงก็เสี่ยงเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

หญิงรักหญิงก็เสี่ยงเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

อ.พญ.เจนจิต  ฉายะจินดา
หน่วยโรคติดเชื้อทางนรีเวชและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สตรี

ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

          ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอไม่ว่าจะเกิดขึ้นระหว่างหญิงกับชาย ชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิง  การแสดงความรักต่อกันเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญเพื่อเติมเต็มความสุขให้การดำเนินชีวิต  ซึ่งแสดงออกได้หลายอย่างตั้งแต่  การพูดคุย  การโอบกอด  การสัมผัสภายนอก ไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์

          ความสัมพันธ์ทางเพศในระหว่างหญิงกับหญิง ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการติดกามโรค  เพราะมีความหลากหลายมาก เช่น รสนิยมและพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเพียงอย่างเดียวหรือทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง  คู่นอนคนก่อนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่  ใช้อุปกรณ์ประกอบในกิจกรรมทางเพศร่วมกับผู้อื่น  เคยมีคู่นอนเป็นผู้ชาย เป็นต้น มีรายงานหนึ่งกล่าวว่าร้อยละ 53-99 บอกว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายและมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ชายอีก     ดังนั้น ควรพูดคุยกันอย่างเปิดเผยกับคู่ของตน

          โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มนี้จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่  ได้แก่  โรคติดเชื้อระหว่างผู้หญิงกันเอง และโรคที่เกิดจากอดีตคู่นอนคนที่เป็นผู้ชาย  โรคที่เกิดจากการติดเชื้อระหว่างผู้หญิงกันเอง  ได้จากการสัมผัสเป็นหลัก ได้แก่ ไวรัสเอชพีวีที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ เริม และตกขาวกลิ่นเหม็นในช่องคลอด  ส่วนโรคที่ติดจากอดีตคู่นอนที่เป็นผู้ชาย ก็เป็นได้ทุกโรค ตั้งแต่หนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส และอื่นๆ   อย่างไรก็ตาม  ปัจจุบัน มีการใช้อุปกรณ์เสริมทางเพศ (Sex toy)  ซึ่งสามารถใช้เสมือนเป็นองคชาตจริงๆ  หากใช้ร่วมกันหลายคนโดยทำความสะอาดไม่ดี  ผลจะเหมือนกับพฤติกรรมสำส่อนทางเพศกับผู้ชายได้

          การถ่ายทอดเอชพีวีเป็นการถ่ายทอดทาง ผิวหนังกับผิวหนัง หรือ ผิวหนังกับเยื่อบุ  สามารถตรวจเจอเชื้อจาก ปากมดลูก ช่องคลอด และอวัยวะเพศภายนอก  รวมถึงเซลล์ก่อนมะเร็งของปากมดลูก ได้ถึงร้อยละ 13-30ของกลุ่มหญิงรักหญิง   ดังนั้น กลุ่มนี้ยังคงสมควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเช่นเดียวกับหญิงทั่วไป

          สำหรับโรคเริม  นอกจากเริมจากอวัยวะเพศสู่อวัยวะเพศแล้ว  พฤติกรรมการใช้ปากกกับอวัยวะเพศด้วยจึงอาจทำให้มีการถ่ายทอดเชื้อ เริมที่ริมฝีปากไปสู่บริเวณอวัยวะเพศได้อีกด้วย

          ตกขาวกลิ่นเหม็นในช่องคลอด   ปกติตกขาวมีภาวะเป็นกรดแต่หากมีการใช้ปากร่วมด้วย  น้ำลายซึ่งมีภาวะด่างจะทำให้สมดุลในช่องคลอดเสียไป  ตกขาวจึงมีกลิ่นเหม็นเน่าขึ้นมาจนจำเป็นต้องได้รับการรักษา อย่างไรก็ตามยังไม่แนะนำให้ต้องมาตรวจตกขาวเป็นประจำ  แนะนำให้สังเกตอาการเมื่อผิดปกติจึงรักษา  และดูแลตนเองอย่างถูกต้อง เช่นการล้างอุปกรณ์การมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งหลังใช้

          โดยสรุปคือ ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมทางเพศอย่างไรก็มีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทั้งนั้น  และเมื่อเป็นโรคใดโรคหนึ่งแล้ว ผู้นั้นก็ควรได้รับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ  เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ป่วยคนอื่น

 

หากท่านมีข้อสงสัยใดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อได้ที่ หน่วยโรคติดเชื้อทางนรีเวชและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สตรี (คลินิก 309) โทรศัพท์ 02-412-9689 หรือ 02-419-7377

เวลา     07.00-15.30น.

 

 

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด