การตรวจระดับการได้ยิน

การตรวจระดับการได้ยิน

รศ.นพ.วิชญ์ บรรณหิรัญ
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

            การตรวจระดับการได้ยิน เป็นการตรวจการทำงานของหู และระบบโสตประสาทเพื่อหาระดับการได้ยิน โดยปกติจะทำการทดสอบหาระดับการได้ยินผ่านสองทาง คือ การนำเสียงผ่านอากาศ และการนำเสียงผ่านกระดูก

             การนำเสียงผ่านอากาศจะทดสอบโดยการครอบหูฟัง ส่วนการนำเสียงผ่านกระดูกจะทดสอบโดยการวางตัวปล่อยเสียงที่กระดูกกกหู จากนั้นจะปล่อยเสียงความถี่เดียว ที่ระดับความดังต่าง ๆ แล้วลดระดับลงเรื่อย ๆ จนถึงระดับความดังที่เบาที่สุดที่ผู้ถูกทดสอบได้ยิน

            โดยปกติแล้วระดับการได้ยินปกติจะอยู่ระหว่าง-10จนถึง 25 เดซิเบล ผู้ที่มีระดับการได้ยินสูงกว่านี้ ถือว่ามีความผิดปกติของระดับการได้ยิน โดยแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ดังนี้
                      

   ระดับการได้ยิน (เดซิเบล)

ความผิดปกติ
               

-10 ถึง 25 

การได้ยินปกติ

26 ถึง 40 

หูตึงเล็กน้อย

41ถึง 55 

หูตึงปานกลาง

56 ถึง 70 

หูตึงมาก

70 ถึง 90 

หูตึงอย่างรุนแรง

มากกว่า 90 

หูหนวก

นอกจากนี้ยังแบ่งประเภทการสูญเสียการได้ยินเป็น 3 ชนิด ดังนี้
            1.การสูญเสียการได้ยินเฉพาะการนำเสียงผ่านอากาศ(conductive hearing loss) เป็นการสูญเสียความสามารถในการนำเสียงของหูชั้นนอกหรือหูชั้นกลาง แต่หูชั้นในและระบบประสาทการได้ยินอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยจะพบว่าระดับการได้ยินของการนำเสียงผ่านกระดูกอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับการได้ยินของการนำเสียงผ่านอากาศสูงกว่า 25 เดซิเบล

            2.การสูญเสียการได้ยินที่โสตประสาท (sensorineural hearing loss)
เป็นการสูญเสียความสามารถในการนำเสียงของหูชั้นในหรือระบบประสาทการได้ยิน โดยจะพบว่าระดับการได้ยินของการนำเสียงผ่านกระดูกและการนำเสียงผ่านอากาศสูงกว่า 25 เดซิเบล โดยทั้งสองเส้นของระดับการได้ยินจะไม่ห่างกันเกิน 15 เดซิเบล

           3.การสูญเสียการได้ยินแบบผสม (mixed hearing loss)เป็นการสูญเสียความสามารถในการนำเสียงของหูชั้นนอกหรือหูชั้นกลาง ร่วมกับการสูญเสียความสามารถของหูชั้นในและระบบประสาทการได้ยิน โดยจะพบว่าระดับการได้ยินของการนำเสียงผ่านกระดูกและการนำเสียงผ่านอากาศสูงกว่า 25เดซิเบล แต่ทั้งสองเส้นห่างกันมากกว่า 15 เดซิเบล แสดงว่าการนำเสียงผ่านอากาศแย่กว่าการนำเสียงผ่านกระดูก

          ผู้ที่มีการสูญเสียการได้ยิน จำเป็นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมจากแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ ซึ่งอาจรักษาได้ด้วยยา หรือการผ่าตัด นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพ เช่น การใช้เครื่องช่วยฟัง รวมทั้งได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวอีกด้วย

 

 

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด