ซิฟิลิส โรคร้าย...กำลังระบาด

ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

         โรคซิฟิลิสหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นส่วนใหญ่  ซิฟิลิสบางคนอาจจะเคยได้ยินแต่คิดว่ามันไม่มีแล้ว  ในความเป็นจริงโรคเหล่านี้ยังอยู่ และมีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นด้วย  การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในวัยรุ่น ทำให้มีการติดเชื้อในกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง รวมถึงเมื่อตั้งครรภ์อาจจะก่อปัญหาในระยะยาว ส่งผลให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตหรือพิการแต่กำเนิด  ทำให้เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม เพราะฉะนั้นปัญหาเหล่านี้ยังอยู่และเป็นสิ่งที่ควรให้ความสนใจ

         โรคซิฟิลิสพบได้ในผู้ป่วยทั้งชายและหญิง  พบมากในกลุ่มวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์  ซิฟิลิสเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซิฟิลิสจะเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดเป็นเกลียว ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ในมนุษย์ สมัยก่อนจะเป็นเรื่องของการได้รับเลือด ปัจจุบันก็จะเป็นเรื่องของเพศสัมพันธ์เป็นหลัก ในปัจจุบันในกลุ่มใหญ่ ๆ พบตอนเจาะเลือด ไม่ว่าจะเป็นเจาะเลือดสมัครงาน ฝากครรภ์ บางกลุ่มก็จะคล้ายโรคเอดส์ (HIV)  ก็คือมาพบแพทย์ตอนมีอาการ

         ระยะแรกของซิฟิลิส ก็จะมีรอยโรคเป็นแผลบริเวณอวัยวะเพศ ถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะหายไปเองในระยะเวลา 3-8 สัปดาห์

         ระยะที่สอง ที่อวัยวะเพศจะมีลักษณะเป็นปื้น ๆ คล้าย ๆ ผื่นนูน ๆ กระจายบริเวณอวัยวะเพศ พร้อมกับมีผื่นบริเวณร่างกาย จะมีลักษณะพิเศษ คือ มีบริเวณที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าด้วย ถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะหายไปได้เอง

         ระยะที่สาม ระยะนี้เป็นระยะเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีเชื้อในร่างกายแต่ว่าไม่แสดงอาการ สามารถส่งผ่าน หรือ แพร่เชื้อได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอีกจะเข้าสู่

         ระยะที่สี่  อาจจะมีเรื่องของการทำงานของสมองที่แย่ลง และรอยโรคที่ระบบไหลเวียนโลหิตก็จะทำให้เกิดเรื่องของโรคหลอดเลือดใหญ่โป่งพองแล้วก็แตกได้ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้

        สำหรับโรคซิฟิลิสจะต่างกับโรคเอดส์ HIV คือ รักษาหายขาด สำหรับระยะที่หนึ่ง ระยะที่สอง รักษาไม่ยาก อาจจะเป็นการกินยาหรือฉีดยาเพียงครั้งเดียวก็หาย แต่หากปล่อยไว้จนเรื้อรังเป็นการติดเชื้อในระยะที่สาม ระยะที่สี่ การรักษาจะยากขึ้น เพราะอวัยวะภายในอาจถูกทำลาย การรักษาหรือแก้กลับคืนมาไม่ได้โอกาสเสียชีวิตสูงมาก   

        อย่างไรก็ตามแม้จะหายขาด หากมีพฤติกรรมเสี่ยง ได้รับเชื้อมาเพิ่มก็กลับมาเป็นใหม่ได้ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่งของผู้อื่น  เช่น การใช้ของมีคมร่วมกัน  การสักการเจาะที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ถูกหลักอนามัย  ตลอดจนการใช้ถุงยางอนามัยอาจจะไม่ได้ป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกโรคร้อยเปอร์เซนต์  ซิฟิลิสบางครั้งอาจจะอยู่นอกบริเวณที่ถุงยางอนามัยครอบคลุมจึงเกิดการติดเชื้อได้

       สำหรับบางท่านที่สังเกตตัวเองมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ มีไข้ผื่นขึ้น สงสัยว่าจะติดเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ต้องอายคุณหมอ เพราะว่าถ้าท่านได้รับการตรวจ  วินิจฉัย การรักษาทำได้ไม่ยากและมีประสิทธิภาพ

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด