โรคผิวหนังที่เกิดจากน้ำท่วม
โรคผิวหนังที่เกิดจากน้ำท่วม
ผศ.พญ.สุเพ็ญญา วโรทัย
ผศ.นพ.สุมนัส บุณยะรัตเวช
ภาควิชาตจวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
เมื่อเกิดอุทกภัย
กระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก สารเคมี รวมถึงเชื้อโรคต่างๆให้แพร่กระจายและปะปนอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง ก่อให้ เกิดโรคผิวหนังบางชนิด โรคผิวหนังที่พบร่วมกับภาวะน้ำท่วมได้บ่อยมีดังนี้
น้ำกัดเท้า
เกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังเนื่องจากความเปียกชื้นและการสัมผัสสิ่งสกปรก สารเคมีต่างๆในน้ำท่วมขัง ทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ ผิวหนังจะมีลักษณะเปื่อยลอก โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้าอาจมีผื่นแดง แสบคันร่วมด้วย
การรักษาเบื้องต้น คือ ใช้ยาทาแก้คันกลุ่มสเตียรอยด์ครีม ทาบริเวณผื่นผิวหนังอักเสบ และอาจใช้ยาฆ่าเชื้อราในกรณีที่มีการติดเชื้อราร่วมด้วย
การติดเชื้อราที่ผิวหนัง
หากเกิดมีภาวะน้ำกัดเท้าต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานๆ ผิวที่เปื่อยลอก โดยเฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วจะติดเชื้อราได้ ซึ่งจะมีผื่นแดง แฉะ มีขุยขาวลอกบริเวณซอกนิ้ว หรือเป็นชนิดผื่นหนา เปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุย ทั้งที่ฝ่าเท้าและซอกนิ้ว มีกลิ่นเหม็น หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า ฮ่องกงฟุต ซึ่งเกิดจากเชื้อกลากชนิดหนึ่งนั่นเอง
การติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นตื้น
นอกจากการสัมผัสกับน้ำสกปรกโดยตรงแล้ว ภาวะที่ผิวหนังอับชื้นอยู่เป็นเวลานานในแต่ละวัน เช่น การสวมรองเท้าบู๊ทยาง อาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นตื้นที่บริเวณฝ่าเท้าได้ ซึ่งจะมีลักษณะเปื่อยยุ่ยเป็นหลุมเล็กๆ ส่งกลิ่นเหม็น
แนวทางการดูแลผิวหนังเมื่อประสบอุทกภัย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำสกปรกโดยตรง หรือใส่รองเท้าบู๊ทยางเมื่อต้องเดินลุยน้ำท่วมขัง
- หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากสัมผัสน้ำท่วมขัง ให้รีบถอดรองเท้าและเสื้อผ้าที่เปียกน้ำออกแล้วล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันที เช็ดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วซึ่งเกิดการอับชื้น ได้ง่าย
- หากมีบาดแผลถลอกในบริเวณที่สัมผัสน้ำสกปรกควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชะล้างด้วย
ต้องรีบไปพบแพทย์เมื่อ
- มีบาดแผลที่เกิดจากของมีคมใต้น้ำทิ่มตำ นอกจากการปฏิบัติการดูแลเบื้องต้นแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับประทานยาป้องกันแผลติดเชื้อและต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักด้วย
- มีการติดเชื้อแบคทีเรียลุกลามลงในผิวหนังชั้นลึกจนเกิดเป็นกลุ่มโรคจำพวกไฟลามทุ่ง ผิวหนังจะบวม แดง ร้อน กดเจ็บ และ ลามเร็วไปยังบริเวณใกล้เคียง ต่อมาอาจมีไข้สูง และต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตร่วมด้วย ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด
- มีการติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นลึกของเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ที่ทำให้ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง เช่น เบาหวาน ตับแข็ง โลหิตจางธาลัสซีเมีย เป็นต้น ในกรณีนี้การติดเชื้อมักจะรุนแรง ลามเร็ว และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จึงต้องรีบไปพบแพทย์เช่นเดียวกัน
หากต้องการปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ติดต่อนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ หน่วยตรวจโรคผิวหนัง
โรงพยาบาลศิริราช โทร. 02-4197380-1, 02-4199628 เพื่อมารับการตรวจในเวลาราชการ
หรือ โทร. 02-4199801 เพื่อนัดหมายการตรวจ ณ คลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ