โรคลมพิษ!

โรคลมพิษ

ศ.พญ.กนกวลัย  กุลทนันทน์

ภาควิชาตจวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล


            โรคลมพิษ เป็นโรคที่มีผื่นผิวหนัง ที่มีลักษณะเป็นผื่นหรือปื้นนูนแดง ไม่มีขุย มีขนาดตั้งแต่ 0.5 หรืออาจถึง 10 ซม. เกิดขึ้นเร็วและกระจายตามตัว แขน ขา มีอาการคัน ผื่นแต่ละที่มักอยู่ไม่นาน โดยมากไม่เกิน 24 ชม. ผื่นนั้นก็ราบไปโดยไม่มีร่องรอย แต่ก็อาจจะมีผื่นใหม่ขึ้นที่อื่น ๆ ได้อีก ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการริมฝีปากบวม ตาบวม

โรคลมพิษ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

 

            โรคลมพิษชนิดเฉียบพลัน (Acute urticarial) คือ อาการผื่นลมพิษที่เป็นไม่เกิน 6 สัปดาห์ โดยสาเหตุส่วนมาก มักเป็นปฏิกิริยาต่อการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด บางรายเกิดจากยา อาหาร แมลงกัดต่อย เมื่อแก้ปัญหาที่สาเหตุแล้วอาการก็จะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยบางรายก็หาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้ ผู้ป่วยโรคลมพิษชนิดเฉียบพลันบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาการแสดงที่อวัยวะอื่น เช่น ปวดท้อง แน่นจมูก หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก หอบหืด หรืออาจเป็นลมจากความดันโลหิตต่ำ ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดอาการหอบหืดจนอันตรายถึงชีวิตได้ โดยปกติแล้วลมพิษชนิดเฉียบพลันมักจะหายภายใน 2 – 3 สัปดาห์ ประมาณ 10 – 20% ของผู้ป่วยโรคลมพิษชนิดเฉียบพลันผื่นจะขึ้นต่อเนื่องจนกลายเป็นลมพิษเรื้อรัง

 

โรคลมพิษชนิดเรื้อรัง ผู้ป่วยมีอาการผื่นลมพิษเป็น ๆ หาย ๆ อย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ต่อเนื่องกันนานเกิน 6 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งมีทั้งชนิดที่ทราบสาเหตุกระตุ้น เช่น การติดเชื้อ ยา ระบบฮอร์โมน หรือเกิดจากปัจจัยทางกายภาพ และชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน เกิดจากความแปรปรวนภายในร่างกาย

 

โรคลมพิษเรื้อรังสามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุ อุบัติการณ์สูงสุดในกลุ่มประชากรวัยทำงาน อายุประมาณ 20 – 40 ปี อาจเป็นไปได้ว่ากลุ่มวัยทำงานมักมีความเครียดสะสมและละเลยต่อการดูแลสุขภาพอนามัยของตัวเอง จึงทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้มากขึ้น

 

            อย่างไรก็ตามโรคลมพิษเรื้อรังนั้นมีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทั้งด้านบุคลิกภาพการทำงาน การเรียน การดำเนินชีวิตประจำวัน การนอนหลับและยังก่อให้เกิดความเครียดอีกด้วย โดยเฉพาะรายที่ไม่ทราบสาเหตุหรือสิ่งกระตุ้นที่ชัดเจน อาจมีภาวะความเครียดที่สูงขึ้นเพราะผู้ป่วยไม่สามารถทราบขึ้นได้ว่าจะมีอาการเกิดขึ้นเมื่อไร และไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากปัจจัยกระตุ้นได้


สำหรับผู้ป่วยผื่นลมพิษ สามารถปฏิบัติตัวเพื่อบรรเทาอาการได้ ดังนี้
 
           1. งดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดลมพิษตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
            2. พกยาต้านฮีสตามีนติดตัวไว้เสมอ เพื่อนำมาใช้ได้ทันทีหากมีอาการ
            3. พยายามทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด
            4. ไม่แกะเกาผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังอักเสบจากการเกา
            5. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หากทำให้เกิดอาการง่วงซึม ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือการขับขี่ยานพาหนะ ควรแจ้งแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาต่อไปตามความเหมาะสม
            6. อาจใช้ยาทา เช่น คาลาไมน์ทาบริเวณผื่นลมพิษ เพื่อช่วยลดความรู้สึกคัน แต่ยานี้ไม่ได้ทำให้ผื่นหาย