รากฟันเทียมไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
สิ่งที่ได้กลับมา ไม่ใช่แค่ “รอยยิ้ม” แต่คือคุณภาพชีวิต
วันที่ 21-22 สิงหาคม 2567 ณ ห้อง Infinity Ballroom ชั้น 1 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย และ สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), และมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดประชุม“การถอดบทเรียนการให้บริการรากฟันเทียมนวัตกรรมไทยสำหรับผู้สูงอายุ” โดยมีตัวแทนจากทันตแพทย์ และผู้ปฏิบัติงานในหน่วยบริการรากฟันเทียมทั่วประเทศเข้าร่วม โดย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดงานประชุมฯ
พร้อมได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิง เพ็ชรา เตชะกัมพุช ประธานกรรมการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา ทีปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และ ประธานกรรมการ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) - TCELS นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและขยายผลนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพไทยสู่ตลาดภาครัฐ, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ดร.จิตติ์พร ธรรมจินดาผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) - TCELS ทพ. อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทพญ. สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการ สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทพ.ดำรง ธำรงเลาหะพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ คุณวรวุฒิ กุลแก้ว เลขาธิการ มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าร่วมในพิธีเปิดงานประชุมฯ
งานประชุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถอดบทเรียนจากการดำเนินโครงการ "ฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567" ในทั้ง 2 ระยะที่ผ่านมา และรวบรวมข้อมูลการดำเนินงานจากหน่วยบริการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหา อุปสรรค และปัจจัยความสำเร็จในพื้นที่
โครงการ "ฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ" ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 และกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2567 โดยมีระยะเวลาดำเนินงานรวม 2 ปี มีเป้าหมายในการให้บริการแก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง จำนวน 7,200 คน ซึ่งการดำเนินงานของโครงการฯ นี้นอกจากจะมีการให้บริการด้านสุขภาพช่องปากแล้วยังมีการส่งเสริมนวัตกรรมรากฟันเทียมของไทยไปพร้อมกัน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพช่องปากเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ และการส่งเสริมนวัตกรรมรากฟันเทียมไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและลดการพึ่งพาการนำเข้าผลิตภัณฑ์รากฟันเทียมจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ได้ย้ำถึงการประเมินผลและการติดตามโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อประเมินความสำเร็จและอุปสรรคที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผนพัฒนางานในอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและขยายผลนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพไทยสู่ตลาดภาครัฐ, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ยังกล่าวเสริมว่า นวัตกรรมไทยเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในระบบสุขภาพไทย และความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาและรักษามาตรฐานนวัตกรรมของไทยในอนาคต รวมทั้งการทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
ดร.ภญ.พัทธรา ลีฬหวรงค์ หน่วยวิจัยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพ Siriraj Health Policy คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในนามของตัวแทนคณะผู้จัดงานประชุม กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่ได้จากการประชุมนี้จะถูกจัดทำเป็นบทเรียนจากโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ และจะถูกสังเคราะห์เป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อพัฒนานวัตกรรมและระบบบริการสุขภาพต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้นวัตกรรมไทยในอนาคต