การประชุมคณะกรรมการนโยบายหน่วยวิจัยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพ ครั้งที่ 1
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายหน่วยวิจัยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพ ครั้งที่ 1 โดยได้รับเกียรติจากที่ปรึกษา ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา, ศาสตราจารย์นายแพทย์วิจารณ์ พานิช และนายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เข้าร่วมประชุมพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและแนวทางในการดำเนินงาน
ในการประชุมครั้งนี้ หน่วยวิจัยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพเสนอแนวคิดและกระบวนการทำงานที่มีจุดมุ่งหมายในการเพิ่มสมรรถนะและส่งเสริมการทำงานวิจัยในรูปแบบ Evidence-based Impact (Research & Practice) เพื่อผลิตงานวิจัยที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ต่อการพัฒนานโยบายสุขภาพและสังคมของประเทศไทยในระยะยาว
หัวข้อหารือที่น่าสนใจ อาทิ การทำงานด้านวิชาการควบคู่กับการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้สูงอายุเพื่อขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ด้านผู้สูงอายุของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เช่น การดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะเปราะบาง (Frailty stage): การดูแลระยะกลาง (Intermediate Care), นอกจากนี้ ได้นำเสนอกระบวนการทำงานด้านการใช้ยาสมเหตุผล (Rational Drug Use) ในคณะฯ, และงานวิจัยที่นำไปใช้เพื่อพิจารณานวัตกรรมด้านการแพทย์เข้าสู่สิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยใช้กระบวนการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (Health Technology Assessment: HTA) ตัวอย่างเช่น การตรวจตรวจยีน BRCA ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและญาติสายตรง และโครงการวิจัยที่เกี่ยวกับการนำนวัตกรรมสุขภาพไปใช้ในระบบสุขภาพวงกว้าง เช่น ระบบบริการใส่รากฟันเทียมผู้สูงอายุ และถุงทวารเทียมซึ่งเป็นนวัตกรรมไทยและเป็นสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ
นอกจากนี้ หน่วยวิจัยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพคาดหวังว่ากระบวนการทำงานด้านการขับเคลื่อนนโยบาย ที่เป็นการทำงานร่วมกับสหสาขาวิชาชีพและองค์กรหลายภาคส่วนทั้งจากภาครัฐและเอกชน จะส่งเสริมให้เกิดการสร้างภาคีเครือข่ายเพื่อการทำงานวิชาการและการขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพที่สำคัญร่วมกันทั้งระหว่างองค์กรระดับประเทศและระดับนานาชาติ
การประชุมครั้งนี้ หน่วยวิจัยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพได้รับข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ที่สามารถนำมาเป็นแนวทางบูรณาการความรู้และนวัตกรรมทางสุขภาพของคณะฯ ที่มีอยู่ ไปสู่การขับเคลื่อนในเชิงนโยบาย เพื่อสร้างสรรค์สุขภาวะต่อสังคมและมวลมนุษยชาติต่อไป
