เรื่องของ” ฟันร้าว“

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาการ ฟันร้าว
เหตุการณ์สมมติ
คุณเริ่มมีอาการเสียวแปลบๆที่บริเวณฟันกรามล่างขณะที่เคี้ยวอาหาร เริ่มจากเป็นครั้งคราวนานๆที จนพักหลังๆเริ่มเป็นบ่อยขึ้น จนทำให้รู้สึกเข็ดขยาด พาลไม่อยากเคี้ยวข้าวข้างนั้นไปเลย ล่าสุดอาการปวดรุนแรงมากขึ้นจนน่ากังวล
คุณไปพบทันตแพทย์ ขั้นต้นทันตแพทย์แจ้งว่าไม่พบร่องรอยฟันผุ และตรวจสอบอาการต่ออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะแจ้งว่า คุณมี “ฟันร้าว

ข้อเท็จจริง
75% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ มีฟันหลังร้าวอย่างน้อย1ซี่ แต่มีเพียง 10-20% เท่านั้นที่แสดงอาการออกมา ฟันร้าวที่ไม่มีอาการโดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องทำการรักษา

พอคุณถามทันตแพทย์ว่า แล้วจะต้องทำอย่างไร ทันตแพทย์แจ้งว่าต้องขอตรวจสอบอาการเพิ่มเติม

ข้อเท็จจริง
    1.    ในปัจจุบัน การถ่ายภาพรังสี (ไม่ว่าจะ2มิติ หรือ 3มิติ) เพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อการวินิจฉัยฟันร้าว ฟันดังกล่าวจึงต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดและอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมและวิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้นจึงจะสามารถวินิจฉัยได้ถูกต้อง แม่นยำ
    2.    ฟันร้าวที่ยังมีอาการไม่มาก หรือที่ได้รับการวินิจฉัยว่าโพรงประสาทฟันมีการอักเสบแบบที่ยังพอหายได้ การทำครอบฟันเพียงอย่างเดียวเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่อย่างไรก็ดี ฟันที่ได้รับการครอบไปแล้วมีโอกาสถึง20-25% ที่จะมีอาการของโพรงประสาทฟันอักเสบขึ้นมาอีก และต้องรักษารากฟันในที่สุด
    3.    ฟันร้าวที่ได้รับการวินิจฉัยว่าโพรงประสาทฟันอักเสบมากแบบที่หายเองไม่ได้ ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือการรักษารากฟัน และต่อด้วยการทำครอบฟัน 

ในที่สุดคุณได้รับแจ้งว่าฟันซี่นี้มีอาการโพรงประสาทฟันอักเสบมาก ต้องรักษารากฟันก่อนแล้วทำครอบฟัน จึงถามทันตแพทย์ไปว่ารักษาแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน

ข้อเท็จจริง
    1.    จากการศึกษาปัจจุบันพบว่าฟันร้าวที่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อย่างทันท่วงที 80-90% สามารถใช้งานได้ยืนยาวไปอีก 5ปี
    2.    อย่างไรก็ดีในกรณีฟันร้าว มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการรักษาที่ทำให้การรักษาล้มเหลว ยกตัวอย่างเช่น สภาวะของฟันเริ่มแรก การลุกลามของรอยร้าวตั้งต้น ลักษณะนิสัยการบดเคี้ยวฟันของผู้ป่วย

ทางเลือกอื่นๆที่นอกเหนือจากการรักษารากฟันและทำครอบฟัน คือการถอนฟัน และทดแทนด้วยฟันเทียมประเภทต่างๆ เช่น รากฟันเทียม ซึ่งสามารถทดแทนฟันจริงได้ดี และมีการศึกษาว่าสามารถใช้งานได้ยาวนาน หรือการใส่ฟันเทียมถอดได้ประเภทต่างๆ

จากสถานการณ์สมมติที่กล่าวมาข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าอาการฟันร้าวเป็นลักษณะโรคที่มีความซับซ้อนตั้งแต่การวินิฉัย ไปจนถึงการรักษา และการพยากรณ์โรคในระยะยาวยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องมากมาย เพราะฉะนั้นการป้องกัน เพื่อคงธรรมชาติของสภาวะช่องปากของเรายังถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและไม่มีอะไรจะมาทดแทนได้ 

การป้องกันการเกิดฟันร้าวทำได้ดังนี้
    1.    ควรหลีกเลี่ยงการบดเคี้ยวของแข็งจนเป็นนิสัย
    2.    ใช้อุปกรณ์ป้องกันฟันในขณะเล่นกีฬาที่อาจมีการกระทบกระเทือนช่องปาก 
    3.    หากมีอาการนอนกัดฟันควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและแก้ไขโดยทันตแพทย์ 
    4.    หมั่นตรวจเช็คฟันทุก 6เดือน

บทความอ้างอิง

Cracked Teeth: updated Treatment Protocols for Maximizing Success, Role of CBCT, New Outcomes Data, and Future Directions for Saving More Teeth, Matthew C. Davis, D.D.S.