มีกำเนิดโดยนิตินัยเป็นแผนกกุมารเวชศาสตร์ ในคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกา เพิ่มแผนกวิชาในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พุทธศักราช 2488 ซึ่งตราไว้ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2488 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488
แผนกกุมารเวชศาสตร์นี้ซึ่งเกิดขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย จึงถือได้ว่าเกิดมาท่ามกลางสภาวะที่สะบักสะบอมและขาดแคลนอย่างมากในทุกๆ ทางแต่เดิมมาก่อนหน้านั้นการบริการผู้ป่วยเด็กก็มีมาตั้งแต่เริ่มตั้งโรงพยาบาลศิริราชใน พ.ศ. 2431 แล้วและการเรียนการสอนโรคเด็กก็มีอยู่แล้วในโรงเรียนแพทย์ศิริราชแต่ยังรวมอยู่ในความรับผิดชอบของแผนกอายุรศาสตร์อย่างไรก็ตามใน พ.ศ. 2469 ก็ได้มีตึกสำหรับรับผู้ป่วยเด็กโดยเฉพาะเป็นครั้งแรก คือ ตึกพระองค์หญิงเป็นตึกชั้นเดียวตั้งอยู่บริเวณที่เป็นตึกกุมารในปัจจุบัน ตึกนี้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์ วรพินิต ประทานเงินสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระธิดาพระองค์ที่หกซึ่งสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 2462 ตั้งแตกวัยเด็กและยังไม่มีพระนามตึกพระองค์หญิงนี้ได้ถูกทำลายโดยลูกระเบิดเพลิงจากการโจมตีทางอากาศของฝ่ายสัมพันธมิตรเมื่อ 4 มีนาคม พ.ศ. 2488 (ห้าเดือนเศษก่อนสงครามโลกจะยุติ)

          ต่อมาจึงได้มีการสร้างตึกกุมารขึ้นมาแทนที่ในระยะต้นที่เริ่มมีแผนกกุมารเวชศาสตร์เกิดขึ้นนั้น ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเสริฐ กังสดาลย์ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกอายุรศาสตร์อยู่ได้เป็นผู้รักษาการหัวหน้าแผนกใหม่นี้ด้วย วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2489 นายแพทย์อรุณเนตรศิริ (ต่อมาได้เป็นศาสตราจารย์) ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกกุมารเวชศาสตร์เป็นคนแรก ท่านได้เป็นผู้บุกเบิกปลูกฝังกุมารเวชศาสตร์ขึ้นในศิริราช ซึ่งได้มีวิวัฒนาการอย่างกว้างขวางตลอดมา ทั้งในด้านวิชาการการบริการผู้ป่วยการสอนนักศึกษาตลอดจนการค้นคว้าวิจัย เมื่อตั้งแผนกใหม่ๆ นอกจากหัวหน้าแผนกแล้ว ก็มีอาจารย์ผู้ช่วยเพียงหนึ่งคน คือแพทย์หญิงเฉิดฉลองเนตรศิริ (ต่อมาได้เป็นศาสตราจารย์ท่านผู้หญิง) กับมีนายแพทย์สวัสดิ์สกุลไทย์ (ต่อมาได้เป็นศาสตราจารย์) เป็นแพทย์ประจำบ้านอาวุโสหนึ่งคน และนายแพทย์ประสงค์ ตู้จินดา (ต่อมาได้เป็นศาสตราจารย์) เป็นแพทย์ประจำบ้านหนึ่งคน มีอาคารรับผู้ป่วยคือตึกมิ้นเลาหเศรษฐี ชั้นเดียว (เปิดใช้ พ.ศ. 2475) กับตึกบริษัทข้าวไทยอุทิศซึ่งมีสองชั้น แต่เปิดรับผู้ป่วยเฉพาะชั้นล่างชั้นเดียว (เปิดใช้ พ.ศ. 2488) มีจำนวนเตียงทั้งหมด 30 เตียง หัวหน้าพยาบาลของแผนกได้แก่ นางสงวนสุข ฉันทวงศ์ (ต่อมาได้เป็นคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล) ที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอกมีเด็กมารับการตรวจรักษาประมาณวันละ 15-20 คน
 
 
 

ในโอกาสครบรอบ 72 ปี ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในปี พ.ศ. 2560
ขอเชิญ: ร่วมบริจาคเงินเพื่อสุขภาพที่ดีของเด็ก ผ่านศิริราชมูลนิธิ กองทุน "72 ปี ภาควิชากุมารเวชศาสตร์" D003784
บัญชีศิริราชมูลนิธิ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 016-3-00049-4 ระบุกองทุน 72 ปี ภาควิชากุมารฯ
ส่งสำเนาใบนำฝากเงินไปที่ donate_siriraj@hotmail.com หรือ fax 02-4197687 เพื่อขอรับใบเสร็จรับเงินบริจาคสำหรับการลดหย่อนภาษี