บทความ

มะเร็งไทรอยด์

โดย ผศ. นพ. ปรัชญา มณีประสพโชค

ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงส์วิทยา 
สาขาวิชาโรคกล่องเสียง หลอดลม ศีรษะและคอ
สถานวิทยามะเร็งศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ความรู้ทั่วไปของโรค

   ต่อมไทรอยด์ มีลักษณะคล้ายรูปผีเสื้อ แบ่งเป็น 2 ข้าง คือ ขวาและซ้าย อยู่บริเวณลำคอด้านหน้าใกล้กับหลอดลมและกล่องเสียง  ต่อมไทรอยด์ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อการเผาผลาญของร่างกาย  หากเซลล์ของต่อมไทรอยด์มีการเติบโตและแบ่งตัวเพิ่มขึ้นผิดปกติจะเกิดเป็นมะเร็งไทรอยด์  ซึ่งสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย  แต่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 3 เท่า หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม  ผู้ป่วยมีโอกาศหายขาดได้สูง

ชนิดของมะเร็งไทรอยด์

  1. มะเร็งไทรอยด์ชนิดพาพิลลารี (papillary thyroid carcinoma)  เป็นมะเร็งไทรอยด์ที่พบมากที่สุด (ประมาณ 80-85% ของผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์) มีแนวโน้มแพร่กระจายช้าและมีการพยากรณ์โรคที่ดี สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดและกลืนแร่ไอโอดีน

          2.  มะเร็งไทยรอยด์ชนิดฟอลลิคูลาร์ (follicular thyroid carcinoma) พบในประมาณ 10 – 15% ของผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์  สามารถแพร่กระจายทางกระแสเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ  เช่น ปอดและกระดูก มักพบมะเร็งไทรอยด์ชนิดนี้ในพื้นที่ที่มีการขาดสารไอโอดีน

          3. มะเร็งไทยรอยด์ชนิดเมดัลลารี (medullary thyroid carcinoma) เกิดขึ้นที่เซลล์ต่อมไทรอยด์ชนิดซีเซลล์ ( C-Cell)  ซึ่งทำหน้าที่ผลิตแคลซิโทนิน (calcitonin) พบได้ประมาณ 1-2 % ของผู้ป่วย  และอาจสัมพันธ์กับโรคทางพันธุกรรมที่เรียกว่า multiple endocrine neoplasia type 2 (MEN2)

          4. มะเร็งไทรอยด์ชนิดอะนาพลาสติก (anplastic thyroid carcinoma)  พบได้น้อยที่สุด 1% แต่มีความรุนแรงมากที่สุด มักตรวจพบในระยะท้าย มีการพยากรณ์โรคที่ไม่ดีและไม่ตอบสนองต่อการรักษา 

สาเหตุ

สาเหตุที่อาจทำให้เกิดมะเร็งไทรอยด์  ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด  แต่มีปัจจัยที่มีส่วนทำให้เป็นมะเร็งไทรอยด์ ได้แก่

  1. พันธุกรรม เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งไทรอยด์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป หรือมะเร็งไทรอยด์บางชนิด เช่น medullary thyroid cancer มีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้สูง  สมาชิกในครอบครัวจึงควรเข้ารับการตรวจประเมินความเสี่ยง
  2. การได้รับสารรังสี  การได้รับรังสีในประมาณสูงเพื่อรักษาโรคบางชนิดในบริเวณลำคอหรือศีรษะ  อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งไทรอยด์ โดยเฉพาะในเด็ก
  3. การขาดสารไอโอดีน  ในบางพื้นที่ที่การบริโภคไอโอดีนต่ำ  อาจพบมะเร็งชนิด follicular ได้มากขึ้น

อาการ

  1. ก้อนที่ลำคอ : คลำพบก้อนที่อยู่บริเวณตรงกลางลำคอ  อาจเยื้องไปทางซ้ายหรือขวาเล็กน้อย  เคลื่อนที่ขึ้นลงสัมพันธ์กับการกลืนและมักจะไม่มีอาการเจ็บ
  2. เสียงแหบ  : เนื่องจากมะเร็งไทรอยด์อาจกดเบียดเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงสายเสียง  ทำให้เกิดสายเสียงอัมพาตหรือไม่ทำงาน
  3. กลืนลำบากหรือหายใจติดขัด : หากก้อนมะเร็งโตและกดทับหลอดอาหารหรือหลอดลม
  4. ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต : เป็นสัญญาณว่ามะเร็งไทรอยด์อาจแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงการวินิจฉัยมะเร็งไทรอยด์

การวินิจฉัย

  1. การซักประวัติและตรวจร่างกาย : เพื่อหาข้อมูลเบี้องต้นเกี่ยวกับก้อนที่คอ  ประวัติการสัมผัสรังสีและประวัติมะเร็งในครอบครัว จากนั้นแพทย์จะตรวจร่างกายโดยการคลำที่บริเวณคอ
  2. การตรวจเลือด : วัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์  ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งไทรอยด์มักจะมีผลเลือดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ปกติ
  3. การอัลตราซาวด์ : เพื่อตรวจดูขนาด รูปร่าง และลักษณะของก้อนที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งไทรอยด์ รวมทั้งดูการแพร่กระจายของต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณคอ

การรักษา

  1. การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (thyroidectomy) การผ่าตัดเป็นการรักษาหลักของโรคมะเร็งไทรอยด์ที่ให้ผลดี การผ่าตัดแบบเปิดที่คอถือเป็นการรักษาตามมาตรฐานโดยสามารถผ่าก้อนที่ต่อมไทรอยด์ได้ทุกขนาด รวมถึงผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่คอร่วมด้วยในกรณีที่มีการกระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง  การผ่าจัดโดยวิธีส่องกล้องเป็นการรักษาใหม่ที่หลีกเลี่ยงรอยแผลที่คอ  แต่มีข้อบ่งชี้เฉพาะในกรณีที่ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กมากเท่านั้น
  2. การให้รังสีไอโอดีน (radioactive iodine therapy) : การกลืนน้ำแร่รังสีไอโอดีนเสริมหลังการผ่าตัด เพื่อลดโอกาสการเกิดซ้ำของมะเร็งไทรอยด์ทั้งชนิด papillary และ follicular
  3. การให้ฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน : เนื่องจากหลังการผ่าตัดทำให้การผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ตามธรรมชาติลดลง ผู้ป่วยต้องทานยาเสริมเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติและช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
  4. การฉายแสงหรือให้ยาเคมีบำบัด (radiation & chemotherapy) : ใช้ในมะเร็งไทรอยด์ชนิดรุนแรง เช่น anaplastic thyroid cancer ที่ไม่สามารถผ่าตัดออกได้หรือมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะข้างเคียง
  5. การให้ยารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (targeted therapy) : การให้ยาจำเพาะต่อยีนที่มีการกลายพันธุ์ผิดปกติ มีข้อบ่งชี้สำหรับมะเร็งไทรอยด์ในระยะรุนแรง ลุกลาม  มีการกลับเป็นซ้ำที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาในวิธีเบื้องต้น

การป้องกัน

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสรังสีที่ไม่จำเป็น : โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่นที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งสูงขึ้นหากสัมผัสสารรังสี
  2. การบริโภคอาหารที่มีไอโอดีน : การรับประทานอาหารที่มีไอโอดีน เช่น เกลือเสริมไอโอดีน อาหารทะเล
  3. การตรวจคัดกรองมะเร็งไทรอยด์ในผู้ที่มีประวัติครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งชนิด medullary
เอกสารประกอบ