การสมัครเป็นสมาชิก

คุณสมบัติ

ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของ สส.มม. ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ
2. มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
3. มีความประพฤติดี และยินยอมปฏิบัติตามข้อบังคับ
4. มีทะเบียนบ้านถูกต้องตามกฎหมาย
5. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเป็นคนไร้ความสามารถ
6. ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคเรื้อที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้
7. ก. เป็นสมาชิกสหกรณ์ หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม ซึ่งมีอายุไม่เกิน 55 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ยื่นใบสมัคร
   ค. เป็นคู่สมรสของสมาชิก ซึ่งมีอายุไม่เกิน 55 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ยื่นใบสมัคร
   ง. เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของสมาชิก ซึ่งมีอายุไม่เกิน25 ปี บริบูรณ์ ในวันที่ยื่นใบสมัคร
   จ. เป็นบิดา มารดา ของสมาชิก ซึ่งมีอายุไม่เกิน 55 ปีบริบูรณ์ในวันที่ยื่นใบสมัคร
       หมายเหตุ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 คุณสมบัติตามข้อ 7 จ. จะต้องมีอายุไม่เกิน 55 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ยื่นใบสมัคร


การสมัครเข้าเป็นสมาชิก

ยื่น "ใบสมัครเข้าเป็นสมาชิก" พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และใบรับรองแพทย์ฉบับจริงจากสถานพยาบาลของรัฐ (ใช้ใบรับรองแพทย์ตามแบบที่สมาคมกำหนด) ณ สำนักงานสหกรณ์ ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยมหิดล จำกัด แห่งหนึ่งแห่งใดในเวลาทำการ ในใบสมัครเข้าเป็นสมาชิก ต้อง

- ระบุชื่อผู้จัดการศพ และผู้รับเงินสงเคราะห์
- ให้สมาชิกหรือกรรมการ สส.มมเซ็นชื่อรับรอง 2 คน


ค่าธรรมเนียมในการสมัคร

ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า คนละ 50 บาท


ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเป็นสมาชิก

- ชำระค่าบำรุงรายปีปีละ 24 บาท ครั้งแรกเมื่อแรกเข้า ปีต่อไปจะเริ่มหักเงินค่าบำรุงในเดือนมกราคม ของปี
- ชำระเงินสงเคราะห์ ศพละ 20 บาท เมื่อสมาชิกรายหนึ่งรายใดถึงแก่ความตาย
- สมาชิกประเภท คู่สมรส บุตร และบิดามารดา ชำระเงินสงเคราะห์ล่วงหน้า 2,000 บาท


วันที่เริ่มได้สิทธิในฐานะสมาชิก

- ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งสมาคม เริ่มตั้งแต่วันที่ที่นายทะเบียนประจำท้องที่รับจดทะเบียน
- สมาชิกภาพของผู้สมัครตามข้อ 9(7) ก. ค. และ ง. จะสมบูรณ์เมื่อพ้นกำหนด 6 เดือน นับแต่วันที่คณะกรรมการได้มีมติให้รับเข้าเป็นสมาชิก และผู้สมัครได้ชำระเงินค่าสมัครและชำระเงินต่างๆ ตามข้อบังคับนี้แล้ว
- สมาชิกภาพของผู้สมัครตามข้อ 9(7) จ. จะสมบูรณ์ เมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการได้มีมติให้รับเข้าเป็นสมาชิก และผู้สมัครได้ชำระเงินค่าสมัครและชำระเงินต่างๆ ตามข้อบังคับนี้แล้ว


การขาดจากสมาชิกภาพ

สมาชิกภาพจะสิ้นสุดลงในกรณีดังต่อไปนี้

1. ตาย
2. ลาออกโดยทำเป็นหนังสือตามแบบที่สมาคมกำหนดและให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการมีมติให้ออก
3. ที่ประชุมใหญ่มีมติให้ออก
4. ถูกคัดชื่อออก เพราะขาดส่งเงินสงเคราะห์ และสมาคมได้นำเงินสงเคราะห์ล่วงหน้ามาจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์หมดแล้ว และได้รับหนังสือเตือนจากสมาคมแล้วสองครั้ง แต่ละครั้งมีระยะเวลาห่างกัน 30 วัน ซึ่งครั้งสุดท้ายได้ทำหนังสือลงทะเบียนแบบตอบรับ หรือสมาคมไม่สามารถติดต่อหาหลักแหล่งที่อยู่ได้ และคณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรให้พ้นจากสมาชิกภาพ เว้นแต่สมาชิกได้อุทธรณ์แต่ละครั้งภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพในหนึ่งรอบการเป็นสมาชิกให้อุทธรณ์ได้สองครั้ง โดยครั้งที่สองต้องพ้นระยะเวลาการอุทธรณ์จากครั้งแรก ไม่น้อยกว่า 2 ปี อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
5. กระทำการใด ๆ อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาคมอย่างร้ายแรง และคณะกรรมการมีมติให้ออก


สิทธิของสมาชิก

สมาชิกมีสิทธิดังต่อไปนี้

1. แสดงความคิดเห็นกี่ยวกับกิจการของสมาคมในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ
2. มีสิทธิเรียกร้องให้คณะกรรมการกระทำ หรืองดเว้นการกระทำเพื่อประโยชน์ของสมาคม หรือป้องกันความเสียหายอันเกิดขึ้นแก่สมาคม
3. เข้าร่วมประชุมใหญ่ และมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทุกครั้ง
4. ขอตรวจสอบบัญชีและเอกสาร เพื่อทราบการดำเนินกิจการของสมาคม ในวันเปิดทำการของสมาคม
5. ทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อการใดการหนึ่งเมื่อใดก็ได้ โดยมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่าห้าสิบคนลงลายมือชื่อ และให้คณะกรรมการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ
6. ร้องขอต่อนายทะเบียนประจำท้องที่ให้สั่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ที่ได้ลงมติฝ่าฝืนกฎหมาย หรือข้อบังคับของสมาคม ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่
7. ยื่นคำร้องขอต่อนายทะเบียนประจำท้องที่ให้เลิกสมาคม พร้อมด้วยเหตุผลประกอบคำร้องขอ สมาชิกอื่นร่วมด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของสมาชิกทั้งหมด


สมาชิกมีหน้าที่ต้องปฎิบัติดังนี้

1. ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง ของสมาคมและมติคณะกรรมการ
2. ต้องชำระเงินสงเคระห์ให้เรียบร้อยภายในสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งการตายของสมาชิกจากสมาคม
3. เก็บรักษาหนังสือสำคัญแสดงการเป็นสมาชิกของสมาคมไว้ ถ้าหายต้องรีบแจ้งเพื่อขอใบแทนใหม่จากสมาคม
4. การย้ายที่อยู่ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล แก้วัน เดือน ปีเกิดของสมาชิก ให้ยื่นคำร้องต่อสมาคมภายในสิบห้าวันนับแต่วันย้าย เปลี่ยน หรือแก้ไขเพื่อสมาคมจะได้แก้ไขหลักฐานต่างๆ ในทะเบียนให้ถูกต้อง
5 แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ เมื่อต้องการเปลี่ยนตัวบุคคลตามที่แสดงความจำนงไว้ในใบสมัครเข้าเป็นสมาชิก โดยยื่นคำร้องต่อนายกสมาคม
6. เมื่อสมาชิกผู้ใดถึงแก่ความตาย ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าจัดการศพ เงินสงเคราะห์หรือครอบครัวของสมาชิกแจ้งให้คณะกรรมการทราบ พร้อมด้วยหลักฐานดังต่อไปนี้
    ก. หนังสือสำคัญแสดงการเป็นสมาชิกและหรือสำเนาใบสมัครสมาชิกใบแจ้งเปลี่ยนแปลงชื่อผู้จัดการศพหรือผู้รับเงินสงเคราะห์
    ข. ใบเสร็จรับเงินครั้งสุดท้าย
    ค. ใบมรณบัตร
    ง. สำเนาทะเบียนบ้านของสมาชิกที่ตาย
    จ. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้จัดการศพ หรือผู้รับเงินสงเคราะห์
    ฉ. บัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวของผู้จัดการศพ หรือผู้รับเงินสงเคราะห์
    ช. สำเนาหน้าสมุดธนาคารที่แสดงชื่อและเลขบัญชีธนาคาร ชื่อในสมุดธนาคารจะต้องเป็นชื่อเดียวกันกับผู้รับเงินค่าจัดการศพและหรือผู้รับเงินสงเคราะห์